• ภาพที่งดงามที่สุดในใจคนไทยเช้านี้
    คือธงชาติไทยที่โบกสะบัดอย่างสง่างาม เหนือผืนแผ่นดิน 5 จุดปะทะชายแดน
    ภูมะเขือ
    ช่องอานม้า
    ปราสาทตาเมือนธม
    ปราสาทตาควาย
    แนวเขตแดนช่องบก
    ทุกผืนดินคือหัวใจของแผ่นดินไทย
    ทุกธงที่ปัก คือสัญลักษณ์แห่งอธิปไตยที่ไม่มีวันล่าถอย
    ขอบคุณทหารกล้าทุกนาย
    ที่ยืนหยัดอยู่แนวหน้าโดยไม่หวั่นแม้ชีวิต
    วันนี้...คนไทยทั้งแผ่นดินจะจดจำไม่มีวันลืม
    แผ่นดินนี้ เป็นของไทย และจะเป็นของไทยตลอดไป
    บทความ : วิชาชีวิต
    🇹🇭 ภาพที่งดงามที่สุดในใจคนไทยเช้านี้ คือธงชาติไทยที่โบกสะบัดอย่างสง่างาม เหนือผืนแผ่นดิน 5 จุดปะทะชายแดน ▪️ภูมะเขือ ▪️ช่องอานม้า ▪️ปราสาทตาเมือนธม ▪️ปราสาทตาควาย ▪️แนวเขตแดนช่องบก ทุกผืนดินคือหัวใจของแผ่นดินไทย ทุกธงที่ปัก คือสัญลักษณ์แห่งอธิปไตยที่ไม่มีวันล่าถอย ขอบคุณทหารกล้าทุกนาย ที่ยืนหยัดอยู่แนวหน้าโดยไม่หวั่นแม้ชีวิต วันนี้...คนไทยทั้งแผ่นดินจะจดจำไม่มีวันลืม 🇹🇭 แผ่นดินนี้ เป็นของไทย และจะเป็นของไทยตลอดไป บทความ : วิชาชีวิต
    0 Comments 0 Shares 1K Views 0 Reviews
  • ปธ. #สีจิ้นผิงว่าไง เขมรกลายเป็น สะเลนสะกี้แล้ว เขมรลงนามกับอเมริกาด้านการป้องกันประเทศ หลังจากข้อตกลงหยุดยิงทำงาน
    คราวนี้คงรู้แล้วนะว่าทำไมเขมรละเมิดข้อตกลงหยุดยิง
    เขมรจะโละของเก่า หลังจากนี้เขมรจะครอบครองอาวุธอเมริกัน และอเมริกาจะไม่ขายอาวุธให้กับไทย
    อเมริกาเดินแผนให้ติด "กับดักหนี้" เพื่อครอบครอง
    อนาคต กองทัพไทยหนักแน่ ถ้าเขมรมันครอบครองอาวุธอเมริกา
    ปธ. #สีจิ้นผิงว่าไง เขมรกลายเป็น สะเลนสะกี้แล้ว เขมรลงนามกับอเมริกาด้านการป้องกันประเทศ หลังจากข้อตกลงหยุดยิงทำงาน คราวนี้คงรู้แล้วนะว่าทำไมเขมรละเมิดข้อตกลงหยุดยิง เขมรจะโละของเก่า หลังจากนี้เขมรจะครอบครองอาวุธอเมริกัน และอเมริกาจะไม่ขายอาวุธให้กับไทย อเมริกาเดินแผนให้ติด "กับดักหนี้" เพื่อครอบครอง อนาคต กองทัพไทยหนักแน่ ถ้าเขมรมันครอบครองอาวุธอเมริกา
    0 Comments 0 Shares 881 Views 0 Reviews
  • ย้อนตำนาน 50 ปี เขมรแดงบุกยึดพนมเปญ จุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกัมพูชา ... #แผ่นดินต้องคำสาป
    เมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๑๘ เมื่อกองกำลังเขมรแดง (Khmer Rouge) สามารถเข้าบุกยึดเมืองหลวงของประเทศ และควบคุมการปกครองของนายพลลอน นอล (Lon Nol) ซึ่งเป็นเผด็จการทหาร โดยมีรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเป็นผู้สนับสนุนได้สำเร็จ ท่ามกลางเสียงโห่ร้อง ดีใจของประชาชนที่ออกมาต้อนรับขับสู้ตามริมทาง มอบดอกไม้ต่างกำลังใจให้ผู้พิชิตเหล่านั้น โดยหารู้ไม่ว่า ในอีกไม่กี่เพลา ชีวิตของพวกเขากำลังเดินทางไปสู่เงื้อมมือของพญามัจจุราช
    เขมรแดง ซึ่งเป็นกองกำลังที่มีหัวขบวนหลักในการขับเคลื่อนโดยอดีตกลุ่มนักศึกษา "ปัญญาชนปารีส" อย่างพล พต (Pol Pot) เอียง ซารี เขียว สัมพัน ซอน เซน ฯลฯ ได้ยืนหยัดและยึดมั่นในอุดมการณ์ลัทธิซ้าย (คอมมิวนิสต์) อย่างสุดโต่งในการปฏิวัติกัมพูชา พวกเขามีความเชื่อว่า สังคมจะบังเกิดความจำเริญได้ ต้องมีความยุติธรรม ซึ่งจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าไม่มีความเท่าเทียม ความเท่าเทียมที่ว่านี้ รวมไปถึงความเท่าเทียมในความเป็นอยู่ ความเท่าเทียมทางรายได้ ความเท่าเทียมทางการศึกษา เป็นต้นว่า ทุกคนต้องทำงาน มีอาชีพเหมือนกัน คือ ใช้แรงงาน เป็น labour ตามทุ่งนาต่างๆ เพื่อป้อนผลผลิตเข้าสู่ "องค์การ (Angkar) — ชื่อเรียกส่วนกลางของพรรคคอมมิวนิสต์กัมพูชา" อยู่แบบเดียวกัน อาศัยร่วมกันในค่ายที่เรียกว่า "คอมมูน (Commune)" ทั้งนี้ ยังไม่นับไปถึงความเท่าเทียมในเรื่องส่วนบุคคลอย่าง การแต่งกายที่ต้องเหมือนกัน คือ สวมชุดสีดำ โพกผ้าขาวม้า ห้ามมีทรัพย์สินส่วนตัว แม้แต่สบู่ แปรงสีฟัน ข้าวของจำเป็นในการอุปโภคบริโภค องค์การก็จะเป็นคนจัดให้ ไม่วายกระทั่ง "เลือกคู่ครอง" ให้ โดยอ้าง "เหตุผลของรัฐ (raison d'état)"
    ในกรุงพนมเปญ เขมรแดงเกณฑ์ผู้คนชาวกรุงนับล้านอพยพออกจากเมือง โดยโกหกว่า กองทัพสหรัฐฯ เตรียมการทิ้งระเบิด ชาวกรุงเหล่านั้น เป็นชนชั้นกลาง ปัญญาชน เศรษฐี ซึ่งถือเป็น "ชนชั้นนำ (elite)" ที่เขมรแดงตราหน้าว่าเป็น "ศัตรูของรัฐ" ในเวลาต่อมา ถูกบังคับให้ต้องเดินเป็นระยะทางหลายกิโล กระจายกันไปตามภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ ตามแต่คำสั่งขององค์การ พวกเขาถูกนำตัวไปที่ค่าย (Commune) ที่ตั้งอยู่ตามทุ่งนาโล่งๆ หลายสิบแห่ง ที่ขนาดใหญ่และมีความสำคัญ เช่น ค่ายเสียมเรียบ พระตะบอง กันดาล เป็นต้น
    ตลอดระยะเวลาเกือบ ๔ ปีที่เขมรแดงขึ้นปกครองประเทศ กรุงพนมเปญกลายเป็นเมืองร้าง ไฟฟ้า ประปาไม่มีใช้ ยกเลิกโรงเรียน ธนาคาร โรงพยาบาล สาธารณูปโภคทุกอย่างถูกทำลาย เน้นการโดดเดี่ยวตัวเองเพื่อสร้างเศรษฐกิจแบบยังชีพตามอุดมการณ์พรรคคอมมิวนิสต์ คนทุกคนมีอาชีพเป็นแรงงาน ต้องทำงาน "เพื่อส่วนรวม" โดยไม่คิดถึงตัวเอง ๑๒ ชั่วโมง/วัน ตามทุ่งนา และจะได้รับอาหารจากองค์การเป็น "ข้าวเปล่าต้มสุก" ๑ กระป๋อง วันละ ๑ มื้อ ที่ถือได้ว่า "ดีแล้ว" เมื่อเทียบกับในคุก S-21 (ตวลสเลง) ที่ใช้คุมขัง "ศัตรูของรัฐ" ซึ่งได้รับอาหารเพียงข้าวต้ม ๓ ช้อน/วัน
    ด้วยการกดขี่ ใช้แรงงานอย่างไร้มนุษยธรรม ประกอบกับภาวะอาหารขาดแคลน อดอยาก มีผู้คนต้องล้มตายจากการขาดสารอาหาร การเจ็บป่วยที่ไม่มีแม้แต่ยารักษา เพราะแพทย์ถูกฆ่าตายจนหมดสิ้น ในฐานะ "ปัญญาชน" ซึ่งเป็นศัตรูของรัฐ คนป่วยต้องพึ่งพาสมุนไพร ใบไม้ในป่าพอประทัง และยังต้องทำงานเฉกเช่นเดียวกับคนปกติ การอู้งานอาจเป็นสาเหตุหนึ่งของข้อหา "ทรยศต่อองค์การ" ซึ่งแน่นอนว่าบทลงโทษของมันคือ "ความตาย"
    "ความตาย" กลายเป็น "มรณานุสสติ" ที่คนเขมรหวาดสะพรึงอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก ปัญญาชน คนต่างชาติ แม้แต่ "คนใส่แว่น" จะถูกฆ่าอย่างเหี้ยมโหด บ้างก็ถูกส่งไปทรมานในคุกพิเศษ บ้างก็ถูกฆ่ารวมกับ "พวกอู้งาน" กลางทุ่งนา จึงเป็นที่มาของคำเรียกว่า "ทุ่งสังหาร (killing field)"
    ท้ายที่สุด ภายใต้การนำของอดีตสมุนเขมรแดง ซึ่งรวมไปถึงนายกรัฐมนตรีกัมพูชาคนปัจจุบันอย่าง "ฮุน เซ็น" ได้ร่วมมือกับกองทัพเวียดนาม ซึ่งเป็นคอมมิวนิสต์คนละสายกับเขมรแดง (เวียดนามได้รับการสนับสนุนจากสหภาพโซเวียต ส่วนเขมรแดงได้รับการสนับสนุนจากจีน) เข้าบุกโจมตีกองทัพเขมรแดง เข้าปลดแอกประชาชนกัมพูชา จนได้รับชัยชนะ ควบคุมพนมเปญ และเปลี่ยนแปลงการปกครองได้ในปี ๒๕๒๒ ก่อนที่ความสูญเสียจะทวีคูณขึ้นเกิน ๓ ล้านคน หรือประมาณ ๑ ใน ๓ ของประชากรเขมรทั้งประเทศ
    ขอบพระคุณบทความจาก คุณ @Kanarop Chaiyasit
    ย้อนตำนาน 50 ปี เขมรแดงบุกยึดพนมเปญ จุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกัมพูชา ... #แผ่นดินต้องคำสาป เมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๑๘ เมื่อกองกำลังเขมรแดง (Khmer Rouge) สามารถเข้าบุกยึดเมืองหลวงของประเทศ และควบคุมการปกครองของนายพลลอน นอล (Lon Nol) ซึ่งเป็นเผด็จการทหาร โดยมีรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเป็นผู้สนับสนุนได้สำเร็จ ท่ามกลางเสียงโห่ร้อง ดีใจของประชาชนที่ออกมาต้อนรับขับสู้ตามริมทาง มอบดอกไม้ต่างกำลังใจให้ผู้พิชิตเหล่านั้น โดยหารู้ไม่ว่า ในอีกไม่กี่เพลา ชีวิตของพวกเขากำลังเดินทางไปสู่เงื้อมมือของพญามัจจุราช เขมรแดง ซึ่งเป็นกองกำลังที่มีหัวขบวนหลักในการขับเคลื่อนโดยอดีตกลุ่มนักศึกษา "ปัญญาชนปารีส" อย่างพล พต (Pol Pot) เอียง ซารี เขียว สัมพัน ซอน เซน ฯลฯ ได้ยืนหยัดและยึดมั่นในอุดมการณ์ลัทธิซ้าย (คอมมิวนิสต์) อย่างสุดโต่งในการปฏิวัติกัมพูชา พวกเขามีความเชื่อว่า สังคมจะบังเกิดความจำเริญได้ ต้องมีความยุติธรรม ซึ่งจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าไม่มีความเท่าเทียม ความเท่าเทียมที่ว่านี้ รวมไปถึงความเท่าเทียมในความเป็นอยู่ ความเท่าเทียมทางรายได้ ความเท่าเทียมทางการศึกษา เป็นต้นว่า ทุกคนต้องทำงาน มีอาชีพเหมือนกัน คือ ใช้แรงงาน เป็น labour ตามทุ่งนาต่างๆ เพื่อป้อนผลผลิตเข้าสู่ "องค์การ (Angkar) — ชื่อเรียกส่วนกลางของพรรคคอมมิวนิสต์กัมพูชา" อยู่แบบเดียวกัน อาศัยร่วมกันในค่ายที่เรียกว่า "คอมมูน (Commune)" ทั้งนี้ ยังไม่นับไปถึงความเท่าเทียมในเรื่องส่วนบุคคลอย่าง การแต่งกายที่ต้องเหมือนกัน คือ สวมชุดสีดำ โพกผ้าขาวม้า ห้ามมีทรัพย์สินส่วนตัว แม้แต่สบู่ แปรงสีฟัน ข้าวของจำเป็นในการอุปโภคบริโภค องค์การก็จะเป็นคนจัดให้ ไม่วายกระทั่ง "เลือกคู่ครอง" ให้ โดยอ้าง "เหตุผลของรัฐ (raison d'état)" ในกรุงพนมเปญ เขมรแดงเกณฑ์ผู้คนชาวกรุงนับล้านอพยพออกจากเมือง โดยโกหกว่า กองทัพสหรัฐฯ เตรียมการทิ้งระเบิด ชาวกรุงเหล่านั้น เป็นชนชั้นกลาง ปัญญาชน เศรษฐี ซึ่งถือเป็น "ชนชั้นนำ (elite)" ที่เขมรแดงตราหน้าว่าเป็น "ศัตรูของรัฐ" ในเวลาต่อมา ถูกบังคับให้ต้องเดินเป็นระยะทางหลายกิโล กระจายกันไปตามภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ ตามแต่คำสั่งขององค์การ พวกเขาถูกนำตัวไปที่ค่าย (Commune) ที่ตั้งอยู่ตามทุ่งนาโล่งๆ หลายสิบแห่ง ที่ขนาดใหญ่และมีความสำคัญ เช่น ค่ายเสียมเรียบ พระตะบอง กันดาล เป็นต้น ตลอดระยะเวลาเกือบ ๔ ปีที่เขมรแดงขึ้นปกครองประเทศ กรุงพนมเปญกลายเป็นเมืองร้าง ไฟฟ้า ประปาไม่มีใช้ ยกเลิกโรงเรียน ธนาคาร โรงพยาบาล สาธารณูปโภคทุกอย่างถูกทำลาย เน้นการโดดเดี่ยวตัวเองเพื่อสร้างเศรษฐกิจแบบยังชีพตามอุดมการณ์พรรคคอมมิวนิสต์ คนทุกคนมีอาชีพเป็นแรงงาน ต้องทำงาน "เพื่อส่วนรวม" โดยไม่คิดถึงตัวเอง ๑๒ ชั่วโมง/วัน ตามทุ่งนา และจะได้รับอาหารจากองค์การเป็น "ข้าวเปล่าต้มสุก" ๑ กระป๋อง วันละ ๑ มื้อ ที่ถือได้ว่า "ดีแล้ว" เมื่อเทียบกับในคุก S-21 (ตวลสเลง) ที่ใช้คุมขัง "ศัตรูของรัฐ" ซึ่งได้รับอาหารเพียงข้าวต้ม ๓ ช้อน/วัน ด้วยการกดขี่ ใช้แรงงานอย่างไร้มนุษยธรรม ประกอบกับภาวะอาหารขาดแคลน อดอยาก มีผู้คนต้องล้มตายจากการขาดสารอาหาร การเจ็บป่วยที่ไม่มีแม้แต่ยารักษา เพราะแพทย์ถูกฆ่าตายจนหมดสิ้น ในฐานะ "ปัญญาชน" ซึ่งเป็นศัตรูของรัฐ คนป่วยต้องพึ่งพาสมุนไพร ใบไม้ในป่าพอประทัง และยังต้องทำงานเฉกเช่นเดียวกับคนปกติ การอู้งานอาจเป็นสาเหตุหนึ่งของข้อหา "ทรยศต่อองค์การ" ซึ่งแน่นอนว่าบทลงโทษของมันคือ "ความตาย" "ความตาย" กลายเป็น "มรณานุสสติ" ที่คนเขมรหวาดสะพรึงอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก ปัญญาชน คนต่างชาติ แม้แต่ "คนใส่แว่น" จะถูกฆ่าอย่างเหี้ยมโหด บ้างก็ถูกส่งไปทรมานในคุกพิเศษ บ้างก็ถูกฆ่ารวมกับ "พวกอู้งาน" กลางทุ่งนา จึงเป็นที่มาของคำเรียกว่า "ทุ่งสังหาร (killing field)" ท้ายที่สุด ภายใต้การนำของอดีตสมุนเขมรแดง ซึ่งรวมไปถึงนายกรัฐมนตรีกัมพูชาคนปัจจุบันอย่าง "ฮุน เซ็น" ได้ร่วมมือกับกองทัพเวียดนาม ซึ่งเป็นคอมมิวนิสต์คนละสายกับเขมรแดง (เวียดนามได้รับการสนับสนุนจากสหภาพโซเวียต ส่วนเขมรแดงได้รับการสนับสนุนจากจีน) เข้าบุกโจมตีกองทัพเขมรแดง เข้าปลดแอกประชาชนกัมพูชา จนได้รับชัยชนะ ควบคุมพนมเปญ และเปลี่ยนแปลงการปกครองได้ในปี ๒๕๒๒ ก่อนที่ความสูญเสียจะทวีคูณขึ้นเกิน ๓ ล้านคน หรือประมาณ ๑ ใน ๓ ของประชากรเขมรทั้งประเทศ ขอบพระคุณบทความจาก คุณ @Kanarop Chaiyasit
    0 Comments 0 Shares 1K Views 0 Reviews
  • ทบ.แจ้งยอดกำลังพลเสียชีวิตแล้ว 6 นาย
    25 กรกฎาคม 2568 เมื่อเวลา 20.45 น. ทางทีมโฆษกกองทัพบกรายงานว่า กองทัพบกขอรายงานข้อมูลการสูญเสียกำลังพลจากการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันประเทศ ตลอดช่วงการปะทะในพื้นที่ชายแดน ระหว่างวันที่ 24–25 กรกฎาคม 2568 กองทัพบกขอรายงานการสูญเสียกำลังพลรวมทั้งสิ้น 6 นาย แบ่งเป็น
    - นายสิบ จำนวน 5 นาย
    - พลทหาร จำนวน 1 นาย
    .
    โดยสรุปสถานการณ์ผู้ได้รับผลกระทบจากการปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา ณ วันที่ 25 กรกฎาคม 2568 เวลา 20.00 น. มียอดผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสะสมรวมดังนี้
    1.พลเรือน
    เสียชีวิต: 13 ราย
    บาดเจ็บสาหัส: 10 ราย
    บาดเจ็บปานกลาง: 10 ราย
    บาดเจ็บเล็กน้อย: 13 ราย
    รวมทั้งสิ้น: 46 ราย
    2. ทหาร
    เสียชีวิต: 6 นาย
    บาดเจ็บสาหัส: 7 นาย
    บาดเจ็บปานกลาง: 5 นาย
    บาดเจ็บเล็กน้อย: 3 นาย
    รวมทั้งสิ้น: 21 นาย
    .
    รวมผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 19 ราย และผู้บาดเจ็บรวม 48 ราย
    .
    กองทัพไทยขอแสดงความไว้อาลัยและสดุดีวีรกรรมของทหารกล้าผู้เสียสละชีวิตเพื่อปกป้องผืนแผ่นดิน และอธิปไตยของชาติอย่างหาญกล้า
    .
    #Saveชีวิตคนไทย #ไทยเขมร #ชายแดน #กัมพูชา #ไทย #ชายแดนไทยกัมพูชา #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยรัฐทีวี32
    ทบ.แจ้งยอดกำลังพลเสียชีวิตแล้ว 6 นาย 25 กรกฎาคม 2568 เมื่อเวลา 20.45 น. ทางทีมโฆษกกองทัพบกรายงานว่า กองทัพบกขอรายงานข้อมูลการสูญเสียกำลังพลจากการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันประเทศ ตลอดช่วงการปะทะในพื้นที่ชายแดน ระหว่างวันที่ 24–25 กรกฎาคม 2568 กองทัพบกขอรายงานการสูญเสียกำลังพลรวมทั้งสิ้น 6 นาย แบ่งเป็น - นายสิบ จำนวน 5 นาย - พลทหาร จำนวน 1 นาย . โดยสรุปสถานการณ์ผู้ได้รับผลกระทบจากการปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา ณ วันที่ 25 กรกฎาคม 2568 เวลา 20.00 น. มียอดผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสะสมรวมดังนี้ 1.พลเรือน เสียชีวิต: 13 ราย บาดเจ็บสาหัส: 10 ราย บาดเจ็บปานกลาง: 10 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย: 13 ราย รวมทั้งสิ้น: 46 ราย 2. ทหาร เสียชีวิต: 6 นาย บาดเจ็บสาหัส: 7 นาย บาดเจ็บปานกลาง: 5 นาย บาดเจ็บเล็กน้อย: 3 นาย รวมทั้งสิ้น: 21 นาย . รวมผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 19 ราย และผู้บาดเจ็บรวม 48 ราย . กองทัพไทยขอแสดงความไว้อาลัยและสดุดีวีรกรรมของทหารกล้าผู้เสียสละชีวิตเพื่อปกป้องผืนแผ่นดิน และอธิปไตยของชาติอย่างหาญกล้า . #Saveชีวิตคนไทย #ไทยเขมร #ชายแดน #กัมพูชา #ไทย #ชายแดนไทยกัมพูชา #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยรัฐทีวี32
    0 Comments 0 Shares 2K Views 0 Reviews
  • สิ่งที่ฮุนเซนต้องการจริงๆ ไม่ใช่แค่การสู้รบชายแดน แต่คือการกำจัดทหารที่อาจไม่ภักดีต่ออำนาจของตระกูลฮุน?
    ตอนนี้ฮุนเซนลดงบประมาณของกองทัพลงอย่างมีนัยยะ แล้วโยกเงินไปสร้าง “กองกำลังพิเศษ” ที่มีเฉพาะคนใกล้ชิดเท่านั้นที่ได้ใช้อาวุธทันสมัย
    ทหารกัมพูชาธรรมดาไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้สัมผัสอาวุธเหล่านั้น แต่กลับถูกส่งไปตายชายแดน ด้วยคำว่ารักชาติบังหน้า
    ล่าสุด ฮุน เซนกำลังจะส่ง “กองทัพเรือ” มาปะทะ ทั้งๆ ที่ไม่มีข้อพิพาททางทะเลกับไทย เรือรบก็ยังไม่มีพร้อม แต่นายพลกับกำลังพลกลับถูกสั่งให้ออกหน้าไปตาย
    นี่มันแปลกเกินไป และชัดเจนว่าไม่ใช่สงครามเพื่อประเทศชาติ แต่คือสงครามเพื่อรักษาอำนาจของตระกูล
    ไม่มีผู้นำที่ไหนในโลกจะบ้าเลือดถึงขนาดส่งลูกน้องตัวเองไปตาย ทั้งๆ ที่รู้ว่าแพ้แน่
    ประเทศเล็กอย่างกัมพูชา ประชาคมโลกอาจไม่ใส่ใจ แต่ความจริงคือ… ทหารกัมพูชากำลังถูกใช้เป็นเหยื่อในเกมอำนาจของคนๆ เดียว
    What Hun Sen truly wants isn’t just a border war — it’s to eliminate soldiers who may no longer be loyal to his dynasty.
    He has quietly slashed the national military budget and redirected funds to build a “special guard force” equipped with state-of-the-art weapons, available only to those loyal to him personally.
    Ordinary Cambodian soldiers never even get to touch this kind of equipment. Instead, they’re sent to die on the frontlines — all in the name of nationalism.
    And now, Hun Sen is preparing to send the navy to the battlefield — even though there is no maritime dispute with Thailand. There aren’t even proper warships ready, yet generals and sailors are being deployed to die.
    It’s not just strange. It’s strategic.
    This is not a war for the country. It’s a purge — a calculated operation to remove anyone in uniform who might challenge the Hun dynasty’s grip on power.
    No rational leader would send his own men to die knowing they will lose — unless death is the plan.
    The world may ignore a small country like Cambodia, but the truth is this:
    Cambodian soldiers are being sacrificed — not for the nation — but for one man’s throne.
    អ្វីដែលហ៊ុន សែនចង់បានមែនមិនមែនសង្គ្រាមព្រំដែនទេ — តែគឺការបញ្ជប់ទាហានដែលអាចនឹងមិនស្មោះត្រង់នឹងរាជវង្សរបស់គាត់។
    គាត់បានកាត់បន្ថយថវិកាថ្នាក់យោធាជាសម្ងាត់ ហើយបញ្ចូនថវិកាទៅកែលំអកងពិសេសសម្រាប់ការការពារខ្លួនឯង ដែលមានអាវុធស្ទើរតែទំនើបបំផុត ហើយមានតែអ្នកដែលស្មោះត្រង់តែប៉ុណ្ណោះទទួលបាន។
    ទាហានជាធម្មតាមិនបានស្ទាប់ដល់អាវុធទំនើបទេ។ តែនៅទីបំផុត ត្រូវបញ្ជូនទៅស្លាប់នៅតំបន់ព្រំដែន ដោយប្រើពាក្យថា “ស្មោះនឹងជាតិ” ជាអាវការពារ។
    ឥឡូវនេះ ហ៊ុន សែនកំពុងរៀបចំផ្ញើកងទ័ពជើងទឹកចូលសង្រ្គាម ទោះបីជាមិនមានវិវាទសមុទ្រជាមួយថៃផងដែរ។ កប៉ាល់ប្រយុទ្ធក៏មិនទាន់មានត្រៀមខ្លួនរួចផង ស៉ាងតែឧត្តមសេនីយ៍ និងទាហានត្រូវបានផ្ញើឲ្យទៅស្លាប់។
    នេះមិនមែនគ្រាន់តែចម្លែកទេ — តែជាយុទ្ធសាស្រ្ត។
    នេះមិនមែនជាសង្គ្រាមដើម្បីប្រទេសនោះទេ។ តែជាការបំផ្លាញមនុស្សក្នុងយុទ្ធភោគដែលអាចជាបញ្ហាដល់អំណាចរបស់គាត់។
    មិនមានមេដឹកនាំណាដែលស្មារតីទៀសទេនឹងបញ្ជូនកងទ័ពឯងទៅស្លាប់ ប្រសិនបើគាត់ដឹងថាពួកគេនឹងចាញ់ — លើកលែងតែ “ការស្លាប់” ជាគម្រោងដើម។
    ពិភពលោកអាចមិនខ្វល់អំពីប្រទេសតូចៗដូចជា កម្ពុជា។ តែការពិតគឺ៖
    ទាហានកម្ពុជាកំពុងត្រូវបានប្រើជាសាច់ញាតិ នៅក្នុងហ្គេមអំណាចរបស់មនុស្សតែម្ដង។
    #แฉฮุนเซน
    #ทหารเขมรถูกหลอก
    #สงครามเพื่ออำนาจ
    #ฮุนเซนส่งคนมาตาย
    #กองทัพส่วนตัวฮุนเซน
    #ทหารธรรมดาคือเหยื่อ
    #ล้างบางกองทัพ
    #เขมรไม่ใช่ของตระกูลเดียว
    #หยุดฮุนราชวงศ์
    #กัมพูชายิงก่อน
    #เกมการเมืองใช้เลือดคน
    #ปกป้องแผ่นดินไทย
    #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    #กัมพูชายิงก่อน
    #CambodiaOpenedFire
    #hunsenwarcriminal
    #ฮุนเซนอาชญากรสงคราม
    #ឧក្រិដ្ឋជនហ៊ុនសែន
    #洪森戰爭罪犯
    CR CSI LA
    สิ่งที่ฮุนเซนต้องการจริงๆ ไม่ใช่แค่การสู้รบชายแดน แต่คือการกำจัดทหารที่อาจไม่ภักดีต่ออำนาจของตระกูลฮุน? ตอนนี้ฮุนเซนลดงบประมาณของกองทัพลงอย่างมีนัยยะ แล้วโยกเงินไปสร้าง “กองกำลังพิเศษ” ที่มีเฉพาะคนใกล้ชิดเท่านั้นที่ได้ใช้อาวุธทันสมัย ทหารกัมพูชาธรรมดาไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้สัมผัสอาวุธเหล่านั้น แต่กลับถูกส่งไปตายชายแดน ด้วยคำว่ารักชาติบังหน้า ล่าสุด ฮุน เซนกำลังจะส่ง “กองทัพเรือ” มาปะทะ ทั้งๆ ที่ไม่มีข้อพิพาททางทะเลกับไทย เรือรบก็ยังไม่มีพร้อม แต่นายพลกับกำลังพลกลับถูกสั่งให้ออกหน้าไปตาย นี่มันแปลกเกินไป และชัดเจนว่าไม่ใช่สงครามเพื่อประเทศชาติ แต่คือสงครามเพื่อรักษาอำนาจของตระกูล ไม่มีผู้นำที่ไหนในโลกจะบ้าเลือดถึงขนาดส่งลูกน้องตัวเองไปตาย ทั้งๆ ที่รู้ว่าแพ้แน่ ประเทศเล็กอย่างกัมพูชา ประชาคมโลกอาจไม่ใส่ใจ แต่ความจริงคือ… ทหารกัมพูชากำลังถูกใช้เป็นเหยื่อในเกมอำนาจของคนๆ เดียว What Hun Sen truly wants isn’t just a border war — it’s to eliminate soldiers who may no longer be loyal to his dynasty. He has quietly slashed the national military budget and redirected funds to build a “special guard force” equipped with state-of-the-art weapons, available only to those loyal to him personally. Ordinary Cambodian soldiers never even get to touch this kind of equipment. Instead, they’re sent to die on the frontlines — all in the name of nationalism. And now, Hun Sen is preparing to send the navy to the battlefield — even though there is no maritime dispute with Thailand. There aren’t even proper warships ready, yet generals and sailors are being deployed to die. It’s not just strange. It’s strategic. This is not a war for the country. It’s a purge — a calculated operation to remove anyone in uniform who might challenge the Hun dynasty’s grip on power. No rational leader would send his own men to die knowing they will lose — unless death is the plan. The world may ignore a small country like Cambodia, but the truth is this: Cambodian soldiers are being sacrificed — not for the nation — but for one man’s throne. អ្វីដែលហ៊ុន សែនចង់បានមែនមិនមែនសង្គ្រាមព្រំដែនទេ — តែគឺការបញ្ជប់ទាហានដែលអាចនឹងមិនស្មោះត្រង់នឹងរាជវង្សរបស់គាត់។ គាត់បានកាត់បន្ថយថវិកាថ្នាក់យោធាជាសម្ងាត់ ហើយបញ្ចូនថវិកាទៅកែលំអកងពិសេសសម្រាប់ការការពារខ្លួនឯង ដែលមានអាវុធស្ទើរតែទំនើបបំផុត ហើយមានតែអ្នកដែលស្មោះត្រង់តែប៉ុណ្ណោះទទួលបាន។ ទាហានជាធម្មតាមិនបានស្ទាប់ដល់អាវុធទំនើបទេ។ តែនៅទីបំផុត ត្រូវបញ្ជូនទៅស្លាប់នៅតំបន់ព្រំដែន ដោយប្រើពាក្យថា “ស្មោះនឹងជាតិ” ជាអាវការពារ។ ឥឡូវនេះ ហ៊ុន សែនកំពុងរៀបចំផ្ញើកងទ័ពជើងទឹកចូលសង្រ្គាម ទោះបីជាមិនមានវិវាទសមុទ្រជាមួយថៃផងដែរ។ កប៉ាល់ប្រយុទ្ធក៏មិនទាន់មានត្រៀមខ្លួនរួចផង ស៉ាងតែឧត្តមសេនីយ៍ និងទាហានត្រូវបានផ្ញើឲ្យទៅស្លាប់។ នេះមិនមែនគ្រាន់តែចម្លែកទេ — តែជាយុទ្ធសាស្រ្ត។ នេះមិនមែនជាសង្គ្រាមដើម្បីប្រទេសនោះទេ។ តែជាការបំផ្លាញមនុស្សក្នុងយុទ្ធភោគដែលអាចជាបញ្ហាដល់អំណាចរបស់គាត់។ មិនមានមេដឹកនាំណាដែលស្មារតីទៀសទេនឹងបញ្ជូនកងទ័ពឯងទៅស្លាប់ ប្រសិនបើគាត់ដឹងថាពួកគេនឹងចាញ់ — លើកលែងតែ “ការស្លាប់” ជាគម្រោងដើម។ ពិភពលោកអាចមិនខ្វល់អំពីប្រទេសតូចៗដូចជា កម្ពុជា។ តែការពិតគឺ៖ ទាហានកម្ពុជាកំពុងត្រូវបានប្រើជាសាច់ញាតិ នៅក្នុងហ្គេមអំណាចរបស់មនុស្សតែម្ដង។ #แฉฮุนเซน #ทหารเขมรถูกหลอก #สงครามเพื่ออำนาจ #ฮุนเซนส่งคนมาตาย #กองทัพส่วนตัวฮุนเซน #ทหารธรรมดาคือเหยื่อ #ล้างบางกองทัพ #เขมรไม่ใช่ของตระกูลเดียว #หยุดฮุนราชวงศ์ #กัมพูชายิงก่อน #เกมการเมืองใช้เลือดคน #ปกป้องแผ่นดินไทย #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #hunsenwarcriminal #ฮุนเซนอาชญากรสงคราม #ឧក្រិដ្ឋជនហ៊ុនសែន #洪森戰爭罪犯 CR CSI LA
    0 Comments 0 Shares 3K Views 0 Reviews
  • ((( นักวิเคราะห์ข้อมูลดาวเทียมออสเตรเลีย พบหลักฐาน ความขัดแย้งเริ่มจากฝั่งกัมพูชา - Australian satellite imagery analyst finds evidence that the conflict was initiated from the Cambodian side. (English below) )))
    คุณนาธาน รูเซอร์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการวิเคราะห์ข้อมูลดาวเทียม ของ Australian Strategic Policy Institute หรือ ASPI บอกว่าเขานั่งไล่ดูข้อมูลแล้ว สถานการณ์ที่ถูกยกระดับส่วนใหญ่น่าจะเริ่มต้นจากฝั่งกัมพูชา โดยทหารของกัมพูชาได้เสริมกำลังในหลายพื้นที่ก่อนการปะทะเมื่อวันที่ 28 พ.ค. (ไม่ใช่รอบนี้นะครับ หมายถึง รอบเดือน พ.ค. ที่เป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งรอบนี้) และกัมพูชายังเร่งส่งทรัพยากรทางยุทธศาสตร์เพิ่มเติมทันทีหลังเหตุการณ์
    โดยเขาแนบแผนที่แสดงความหนาแน่นของกิจกรรมทางทหารของกัมพูชาก่อนวันที่ 24 ก.ค. มาด้วย
    นักวิเคราะห์คนนี้ทำข่าวพื้นที่สงครามมาหลายจุด ทั้งยูเครน พม่า ค่อนข้างแม่นยำ ที่ผ่านมามีสื่อใหญ่นำข้อมูลของเขาไปใช้บ่อยครั้ง
    ข้อมูลดาวเทียมนี้เป็นของที่บิดผันไม่ได้ ขอให้ทุกท่านช่วยกันแชร์ออกไป เพื่อยืนยันแก่ชาวโลกว่าเกิดอะไรขึ้น
    ด้านล่างผม (เพจเดอะไวลด์โครนิเคิลส์) แปลอังกฤษไว้ให้นะครับ
    Mr. Nathan Ruser, a satellite imagery analyst at the Australian Strategic Policy Institute (ASPI), stated that after closely examining the data, most of the escalation appears to have originated from the Cambodian side. Cambodian troops reinforced several areas prior to the May 28 clashes (refer to the earlier event which marked the beginning of this current conflict). Cambodia also rapidly deployed additional strategic assets immediately following the incident.
    He included a heatmap showing the concentration of Cambodian military activity prior to July 24.
    Mr. Ruser has covered conflict zones in multiple regions—including Ukraine and Myanmar—and has built a reputation for accuracy. His findings are frequently cited by major international media outlets.
    Satellite data of this nature is immutable. We urge everyone to share this widely, so the world can clearly see what has really taken place.
    Cr. The Wild Chronicles - ประวัติศาสตร์ ข่าวต่างประเทศ ท่องเที่ยวที่แปลก ; Drama-addict
    #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire กองทัพอากาศพร้อมยืนหยัดเคียงข้างเสมอ กองทัพอากาศไทย Royal Thai Air Force
    ((( นักวิเคราะห์ข้อมูลดาวเทียมออสเตรเลีย พบหลักฐาน ความขัดแย้งเริ่มจากฝั่งกัมพูชา - Australian satellite imagery analyst finds evidence that the conflict was initiated from the Cambodian side. (English below) ))) คุณนาธาน รูเซอร์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการวิเคราะห์ข้อมูลดาวเทียม ของ Australian Strategic Policy Institute หรือ ASPI บอกว่าเขานั่งไล่ดูข้อมูลแล้ว สถานการณ์ที่ถูกยกระดับส่วนใหญ่น่าจะเริ่มต้นจากฝั่งกัมพูชา โดยทหารของกัมพูชาได้เสริมกำลังในหลายพื้นที่ก่อนการปะทะเมื่อวันที่ 28 พ.ค. (ไม่ใช่รอบนี้นะครับ หมายถึง รอบเดือน พ.ค. ที่เป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งรอบนี้) และกัมพูชายังเร่งส่งทรัพยากรทางยุทธศาสตร์เพิ่มเติมทันทีหลังเหตุการณ์ โดยเขาแนบแผนที่แสดงความหนาแน่นของกิจกรรมทางทหารของกัมพูชาก่อนวันที่ 24 ก.ค. มาด้วย นักวิเคราะห์คนนี้ทำข่าวพื้นที่สงครามมาหลายจุด ทั้งยูเครน พม่า ค่อนข้างแม่นยำ ที่ผ่านมามีสื่อใหญ่นำข้อมูลของเขาไปใช้บ่อยครั้ง ข้อมูลดาวเทียมนี้เป็นของที่บิดผันไม่ได้ ขอให้ทุกท่านช่วยกันแชร์ออกไป เพื่อยืนยันแก่ชาวโลกว่าเกิดอะไรขึ้น ด้านล่างผม (เพจเดอะไวลด์โครนิเคิลส์) แปลอังกฤษไว้ให้นะครับ Mr. Nathan Ruser, a satellite imagery analyst at the Australian Strategic Policy Institute (ASPI), stated that after closely examining the data, most of the escalation appears to have originated from the Cambodian side. Cambodian troops reinforced several areas prior to the May 28 clashes (refer to the earlier event which marked the beginning of this current conflict). Cambodia also rapidly deployed additional strategic assets immediately following the incident. He included a heatmap showing the concentration of Cambodian military activity prior to July 24. Mr. Ruser has covered conflict zones in multiple regions—including Ukraine and Myanmar—and has built a reputation for accuracy. His findings are frequently cited by major international media outlets. Satellite data of this nature is immutable. We urge everyone to share this widely, so the world can clearly see what has really taken place. Cr. The Wild Chronicles - ประวัติศาสตร์ ข่าวต่างประเทศ ท่องเที่ยวที่แปลก ; Drama-addict #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire กองทัพอากาศพร้อมยืนหยัดเคียงข้างเสมอ กองทัพอากาศไทย Royal Thai Air Force
    0 Comments 0 Shares 1K Views 0 Reviews
  • สมรภูมิรบ ไทย-เขมร วันที่2
    ช่องบก-พระวิหาร เดือด!
    ทหารเขมร ยังไหว!
    เสริมกำลัง เปิดฉากยิง ตั้งแต่ตี4
    ปืนใหญ่-จรวดBM21 ถล่มไทย
    เข้ายึดเนิน 469
    ใช้ปืนใหญ่-ปืนค. ระดมยิงใส่ฝ่ายไทย เนิน 408
    ทหารไทย ยัง แกร่ง !ใช้ ปืนใหญ่ ถล่มช่องบก เนินโนเนม ที่ทหารเขมรเข้ามายึด
    ทหารไทย ปกป้องพื้นที่ “กษัตริย์ศึก-กงจักร”
    รถถังScorpion ได้รับใช้ชาติ ปกป้อง ปราสาทตาเมือนธม
    ทหารไทย อัดต่อยึด “ภูมะเขือ ไล่ทหารเขมร ปกป้องแผ่นดินไทย
    มีรายงานว่า การสู้รบระหว่างทหารไทยและกัมพูชาในวันที่สอง 25 กรกฎาคม 2568 เริ่มต้น ตั้งแต่เวลา 04.30 น. ทหารกัมพูชา ได้เปิดฉากยิงทหารไทยอย่างดุเดือดรอบพื้นที่ ในแนวรบปราสาทพระวิหาร
    กำลังทหารกัมพูชา ประชิดตลอดแนวชายแดน ในพื้นที่กษัตริย์ศึก ซึ่งเป็นเขตรับผิดชอบของ กองพันทหารราบที่ 21
    ต่อมา บริเวณ พื้นที่กงจักร กรมทหารราบเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ 2 ได้ทำการยิงฉาก จากฝ่ายแนวของทหารไทย เพื่อเป็นการตอบโต้ หลังจากทหารกัมพูชาได้ใช้อาวุธหนักยิงเข้าใส่
    จากนั้น 04.50น.หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 26 ตรวจพบยานพาหนะ คาดว่าเป็นรถถังของฝ่ายกัมพูชา จอดเรียงหน้ากระดานจำนวน 6 คัน บริเวณพิกัด…….ตรงข้าม ช่องปลดต่าง
    เวลา 04:54 น. บริเวณพื้นที่กษัตริย์ศึก ทหารไทยและทหารกัมพูชา ประจำหน้าแนว
    เวลา 05.30น.บริเวณพื้นที่ซูรู ป่ากล้วย ทหารกัมพูชาเปิดฉากยิง ส่วน ไทยใช้ รถถังเบา scorpion ของไทย ยิงสนับสนุน บริเวณข้างปราสาทตาเมือนธม
    เวลา 05.25น. บริเวณช่องบก
    ใช้อาวุธปืนใหญ่ ยิงสนับสนุน จากนั้น เวลา 05.35น.พื้นที่ กษัตริย์ศึก ฝั่งไทยได้ ขอการยิงสนับสนุนปืนใหญ่ ยิงลงหลัง เนินโนเนม และยิงทำลาย ที่ตั้งรถถัง พื้นที่ตรงข้ามช่องบก
    เวลา 05.50 น. กำลังฝ่ายไทย เริ่มเข้าตี ปกป้อง ภูมะเขือ
    เวลา 06.29 น.ทหารกัมพูชาใช้กำลังเข้ายึดเนิน 469 โดยใช้ปืนใหญ่และปืนค. ทางทิศใต้บริเวณช่องบก ระดมยิงใส่ฝ่ายไทย เนิน 408
    โดยใช้ BM - 21 จาก อำเภอจอมกระสาน ระดมยิงไปทางซำแต โดยฝ่ายทหารไทยตอบโต้ด้วยปืนใหญ่ขนาด 155 มิลลิเมตร สนับสนุนการต่อต้านปืนใหญ่
    #SupportOurTroops
    #แนวรบช่องบก
    #แนวรบพระวิหาร
    #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    #แผ่นดินของเราย่อมเป็นของเราอยู่ดี
    สมรภูมิรบ ไทย-เขมร วันที่2 ช่องบก-พระวิหาร เดือด! ทหารเขมร ยังไหว! เสริมกำลัง เปิดฉากยิง ตั้งแต่ตี4 ปืนใหญ่-จรวดBM21 ถล่มไทย เข้ายึดเนิน 469 ใช้ปืนใหญ่-ปืนค. ระดมยิงใส่ฝ่ายไทย เนิน 408 ทหารไทย ยัง แกร่ง !ใช้ ปืนใหญ่ ถล่มช่องบก เนินโนเนม ที่ทหารเขมรเข้ามายึด ทหารไทย ปกป้องพื้นที่ “กษัตริย์ศึก-กงจักร” รถถังScorpion ได้รับใช้ชาติ ปกป้อง ปราสาทตาเมือนธม ทหารไทย อัดต่อยึด “ภูมะเขือ ไล่ทหารเขมร ปกป้องแผ่นดินไทย มีรายงานว่า การสู้รบระหว่างทหารไทยและกัมพูชาในวันที่สอง 25 กรกฎาคม 2568 เริ่มต้น ตั้งแต่เวลา 04.30 น. ทหารกัมพูชา ได้เปิดฉากยิงทหารไทยอย่างดุเดือดรอบพื้นที่ ในแนวรบปราสาทพระวิหาร กำลังทหารกัมพูชา ประชิดตลอดแนวชายแดน ในพื้นที่กษัตริย์ศึก ซึ่งเป็นเขตรับผิดชอบของ กองพันทหารราบที่ 21 ต่อมา บริเวณ พื้นที่กงจักร กรมทหารราบเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ 2 ได้ทำการยิงฉาก จากฝ่ายแนวของทหารไทย เพื่อเป็นการตอบโต้ หลังจากทหารกัมพูชาได้ใช้อาวุธหนักยิงเข้าใส่ จากนั้น 04.50น.หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 26 ตรวจพบยานพาหนะ คาดว่าเป็นรถถังของฝ่ายกัมพูชา จอดเรียงหน้ากระดานจำนวน 6 คัน บริเวณพิกัด…….ตรงข้าม ช่องปลดต่าง เวลา 04:54 น. บริเวณพื้นที่กษัตริย์ศึก ทหารไทยและทหารกัมพูชา ประจำหน้าแนว เวลา 05.30น.บริเวณพื้นที่ซูรู ป่ากล้วย ทหารกัมพูชาเปิดฉากยิง ส่วน ไทยใช้ รถถังเบา scorpion ของไทย ยิงสนับสนุน บริเวณข้างปราสาทตาเมือนธม เวลา 05.25น. บริเวณช่องบก ใช้อาวุธปืนใหญ่ ยิงสนับสนุน จากนั้น เวลา 05.35น.พื้นที่ กษัตริย์ศึก ฝั่งไทยได้ ขอการยิงสนับสนุนปืนใหญ่ ยิงลงหลัง เนินโนเนม และยิงทำลาย ที่ตั้งรถถัง พื้นที่ตรงข้ามช่องบก เวลา 05.50 น. กำลังฝ่ายไทย เริ่มเข้าตี ปกป้อง ภูมะเขือ เวลา 06.29 น.ทหารกัมพูชาใช้กำลังเข้ายึดเนิน 469 โดยใช้ปืนใหญ่และปืนค. ทางทิศใต้บริเวณช่องบก ระดมยิงใส่ฝ่ายไทย เนิน 408 โดยใช้ BM - 21 จาก อำเภอจอมกระสาน ระดมยิงไปทางซำแต โดยฝ่ายทหารไทยตอบโต้ด้วยปืนใหญ่ขนาด 155 มิลลิเมตร สนับสนุนการต่อต้านปืนใหญ่ #SupportOurTroops #แนวรบช่องบก #แนวรบพระวิหาร #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #แผ่นดินของเราย่อมเป็นของเราอยู่ดี
    0 Comments 0 Shares 2K Views 0 Reviews
  • สั่งเถอะ!!!3แพ็ค150เท่านั้นเอง!!!เอาอะไรมาไม่คุ้ม
    ทิชชู่ทองเต็มถัง ทิชชู่คุณภาพพรีเมี่ยม
    เปียกน้ำไม่เปื่อย ไม่ยุ่ยง่าย ไม่ขาดง่าย ใช้ดีสุดๆ
    หนา 5!ชั้น เช็ดหน้า เช็ดตัวไม่ยุ่ย ตัวนี้หนานุ่ม
    อ่อนโยนต่อผิว ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ
    เฉลี่ยแล้ว ตกแพ็คละ 50.-เอง! เทียบกับคุณภาพมาตรฐาน ISO9001 คุ้มมากกก
    มีถึง 1800แผ่น ขนาดใหญ่แบบแขวน
    ตุนได้ตุน! ราคานี้หายาก ส่งฟรีด้วย รีบเลยน้าา
    พิกัดสั่งซื้อ
    https://areemart.com/product/3-132
    #กระดาษทิชชู่ #กระดาษทิชชู่ทองเต็มถัง
    สั่งเถอะ!!!3แพ็ค150เท่านั้นเอง!!!เอาอะไรมาไม่คุ้ม😍 ทิชชู่💰ทองเต็มถัง ทิชชู่คุณภาพพรีเมี่ยม เปียกน้ำไม่เปื่อย ไม่ยุ่ยง่าย ไม่ขาดง่าย ใช้ดีสุดๆ หนา 5!ชั้น เช็ดหน้า เช็ดตัวไม่ยุ่ย ตัวนี้หนานุ่ม อ่อนโยนต่อผิว ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ🌳 เฉลี่ยแล้ว ตกแพ็คละ 50.-เอง! เทียบกับคุณภาพมาตรฐาน ISO9001 คุ้มมากกก มีถึง 1800แผ่น ขนาดใหญ่แบบแขวน ตุนได้ตุน! ราคานี้หายาก ส่งฟรีด้วย รีบเลยน้าา😍 📌พิกัดสั่งซื้อ https://areemart.com/product/3-132 #กระดาษทิชชู่ #กระดาษทิชชู่ทองเต็มถัง
    0 Comments 0 Shares 915 Views 0 Reviews
  • ตีป้อมเขมร! วันที่ 2 ดุยิ่งกว่าเดิม!
    ปะทะเดือดชายแดน! ไทย-เขมรเปิดฉากยิงยับ สนั่นแนวเขาพระวิหาร-ช่องบก

    เช้าวันที่ 25 ก.ค. 2568 เสียงปืนดังลั่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง! บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาเข้าสู่วันที่สองของการปะทะกันแบบดุเดือดเลือดพล่าน จนคนไทยทั้งประเทศต้องจับตา

    เวลา ตีสี่ครึ่ง ทหารกัมพูชาดันเปิดเกมก่อน ยิงมาแบบไม่ยั้งรอบๆ บริเวณ ปราสาทพระวิหาร อย่างกับนรกแตก! ฝั่งไทยก็ไม่รอช้า กองพันทหารราบที่ 21 ซึ่งดูแลแนว พื้นที่กษัตริย์ศึก รีบเข้าตรวจสอบ พบว่าทหารเขมรเดินหน้ามาประชิดเต็มแนวชายแดน

    05.25 น. ทหารไทยเปิดฉากสวนกลับ! โดยใช้กำลังจาก กรมทหารราบเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ 2 ยิงตอบโต้แนวเขมรบริเวณกงจักร หลังฝ่ายตรงข้ามใช้อาวุธหนักสาดใส่แบบไม่สนใจอะไรทั้งนั้น!

    05.50 น. ฝั่งเขมรเริ่มขยับของหนัก รถถัง 6 คันขยับมาประจันหน้าตรงจุดพิกัด 5298887609 ตรงข้ามช่องปลดต่าง เรียงหน้ากระดานพร้อมรบ! งานนี้ไม่ได้มาเล่นๆ ฝ่ายไทยต้องงัดทุกไม้เด็ดขึ้นมาสู้

    06.29 น. ศึกดุเดือนยิ่งขึ้นเมื่อกัมพูชาระดมยิงปืนใหญ่-ปืนค. ใส่ฝั่งไทยบริเวณ เนิน 408 หวังยึด เนิน 469 ไว้เป็นจุดได้เปรียบ พิกัดยุทธศาสตร์ตรง ช่องบก ฝั่งเขมรเล่นใหญ่ ใช้ BM-21 จาก อำเภอจอมกระสาน ยิงกระหน่ำไปทางซัมแตกอย่างบ้าคลั่ง ฝ่ายไทยก็ไม่ยอม!! จัดเต็มด้วย ปืนใหญ่ 155 มม. ยิงสวนสนั่นป่า

    04.54 น. หน่วยทหารพรานที่ 26 ยังไม่เจอการปะทะตรงจุดแนวหน้า แต่ก็เตรียมพร้อมรบตลอดเวลา ขณะเดียวกัน หน่วยรถถังเบา Scorpion ของไทยประจำข้าง ปราสาทตาเมือนธม ก็เข้าร่วมสนับสนุนการยิงอย่างหนักหน่วง

    05.35 น. ไทยขอกำลังสนับสนุนปืนใหญ่ ยิงตรง หลังเนินโนเนม และทำลายรถถังเขมรฝั่งตรงข้ามช่องบกแบบไม่ปรานี

    05.50 น. หน่วยรบไทยเริ่มเข้าตีจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ภูมะเขือ ด้านทิศใต้ จัดหนักเพื่อกดดันทัพเขมรที่ขยับเข้ามาไม่หยุด

    เสียงปืนยังไม่จางหาย ความตึงเครียดบนแนวชายแดนยังคุกรุ่น... คนไทยต้องจับมือกันแน่นๆ รู้ไว้! เราไม่ได้ถอย และจะไม่ยอมเสียแผ่นดินแม้แต่วาเดียวให้ใครหน้าไหน!

    “แผ่นดินไทย ไม่ใช่ของแจกฟรี! ใครกล้ารุก เรากล้ายืนหยัด!”

    notezbook

    #fyp #ข่าว #การเมือง #เขมร #กัมพูชา
    ตีป้อมเขมร! วันที่ 2 ดุยิ่งกว่าเดิม! ปะทะเดือดชายแดน! ไทย-เขมรเปิดฉากยิงยับ สนั่นแนวเขาพระวิหาร-ช่องบก เช้าวันที่ 25 ก.ค. 2568 เสียงปืนดังลั่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง! บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาเข้าสู่วันที่สองของการปะทะกันแบบดุเดือดเลือดพล่าน จนคนไทยทั้งประเทศต้องจับตา เวลา ตีสี่ครึ่ง ทหารกัมพูชาดันเปิดเกมก่อน ยิงมาแบบไม่ยั้งรอบๆ บริเวณ ปราสาทพระวิหาร อย่างกับนรกแตก! ฝั่งไทยก็ไม่รอช้า กองพันทหารราบที่ 21 ซึ่งดูแลแนว พื้นที่กษัตริย์ศึก รีบเข้าตรวจสอบ พบว่าทหารเขมรเดินหน้ามาประชิดเต็มแนวชายแดน 05.25 น. ทหารไทยเปิดฉากสวนกลับ! โดยใช้กำลังจาก กรมทหารราบเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ 2 ยิงตอบโต้แนวเขมรบริเวณกงจักร หลังฝ่ายตรงข้ามใช้อาวุธหนักสาดใส่แบบไม่สนใจอะไรทั้งนั้น! 05.50 น. ฝั่งเขมรเริ่มขยับของหนัก รถถัง 6 คันขยับมาประจันหน้าตรงจุดพิกัด 5298887609 ตรงข้ามช่องปลดต่าง เรียงหน้ากระดานพร้อมรบ! งานนี้ไม่ได้มาเล่นๆ ฝ่ายไทยต้องงัดทุกไม้เด็ดขึ้นมาสู้ 06.29 น. ศึกดุเดือนยิ่งขึ้นเมื่อกัมพูชาระดมยิงปืนใหญ่-ปืนค. ใส่ฝั่งไทยบริเวณ เนิน 408 หวังยึด เนิน 469 ไว้เป็นจุดได้เปรียบ พิกัดยุทธศาสตร์ตรง ช่องบก ฝั่งเขมรเล่นใหญ่ ใช้ BM-21 จาก อำเภอจอมกระสาน ยิงกระหน่ำไปทางซัมแตกอย่างบ้าคลั่ง ฝ่ายไทยก็ไม่ยอม!! จัดเต็มด้วย ปืนใหญ่ 155 มม. ยิงสวนสนั่นป่า 04.54 น. หน่วยทหารพรานที่ 26 ยังไม่เจอการปะทะตรงจุดแนวหน้า แต่ก็เตรียมพร้อมรบตลอดเวลา ขณะเดียวกัน หน่วยรถถังเบา Scorpion ของไทยประจำข้าง ปราสาทตาเมือนธม ก็เข้าร่วมสนับสนุนการยิงอย่างหนักหน่วง 05.35 น. ไทยขอกำลังสนับสนุนปืนใหญ่ ยิงตรง หลังเนินโนเนม และทำลายรถถังเขมรฝั่งตรงข้ามช่องบกแบบไม่ปรานี 05.50 น. หน่วยรบไทยเริ่มเข้าตีจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ภูมะเขือ ด้านทิศใต้ จัดหนักเพื่อกดดันทัพเขมรที่ขยับเข้ามาไม่หยุด เสียงปืนยังไม่จางหาย ความตึงเครียดบนแนวชายแดนยังคุกรุ่น... คนไทยต้องจับมือกันแน่นๆ รู้ไว้! เราไม่ได้ถอย และจะไม่ยอมเสียแผ่นดินแม้แต่วาเดียวให้ใครหน้าไหน! “แผ่นดินไทย ไม่ใช่ของแจกฟรี! ใครกล้ารุก เรากล้ายืนหยัด!” notezbook #fyp #ข่าว #การเมือง #เขมร #กัมพูชา
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 1K Views 0 Reviews
  • ใช้ทีไม่เปลือง เช็ดเพลินไม่ขาดง่าย!
    กระดาษทิชชู่ เบนลี่ เนื้อหนา นุ่ม คุ้มทุกแผ่น
    ราคาดีแบบนี้ มีใน Areemart เท่านั้น
    ของดีหมดไว กดสั่งก่อนใคร โหลดแอป Areemart แล้วกดเลย!
    https://areemart.com/product/5170-2
    #areemart #areemartShopOnline #อารีมาร์ท #ทิชชู่เบนลี่ #กระดาษเช็ดหน้าเบนลี่
    ✨ ใช้ทีไม่เปลือง เช็ดเพลินไม่ขาดง่าย! กระดาษทิชชู่ เบนลี่ เนื้อหนา นุ่ม คุ้มทุกแผ่น ราคาดีแบบนี้ มีใน Areemart เท่านั้น 🧻💥 ของดีหมดไว กดสั่งก่อนใคร 👉 โหลดแอป Areemart แล้วกดเลย! https://areemart.com/product/5170-2 #areemart #areemartShopOnline #อารีมาร์ท #ทิชชู่เบนลี่ #กระดาษเช็ดหน้าเบนลี่
    0 Comments 0 Shares 2K Views 0 Reviews
  • ใช้ทีไม่เปลือง เช็ดเพลินไม่ขาดง่าย!
    กระดาษทิชชู่ เบนลี่ เนื้อหนา นุ่ม คุ้มทุกแผ่น
    ราคาดีแบบนี้ มีใน Areemart เท่านั้น
    ของดีหมดไว กดสั่งก่อนใคร โหลดแอป Areemart แล้วกดเลย! https://areemart.com/product/5170-2

    #areemart #areemartShopOnline #อารีมาร์ท #ทิชชู่เบนลี่ #กระดาษเช็ดหน้าเบนลี่
    ✨ ใช้ทีไม่เปลือง เช็ดเพลินไม่ขาดง่าย! กระดาษทิชชู่ เบนลี่ เนื้อหนา นุ่ม คุ้มทุกแผ่น ราคาดีแบบนี้ มีใน Areemart เท่านั้น 🧻💥 ของดีหมดไว กดสั่งก่อนใคร 👉 โหลดแอป Areemart แล้วกดเลย! https://areemart.com/product/5170-2 #areemart #areemartShopOnline #อารีมาร์ท #ทิชชู่เบนลี่ #กระดาษเช็ดหน้าเบนลี่
    0 Comments 0 Shares 2K Views 4 0 Reviews
  • "แค่มาส์ก...ผิวก็ใสขึ้นแบบไม่ต้องรอคลินิก"
    วิตซีเข้มข้นในรูปแบบมาส์กหน้าแผ่นเดียวที่ช่วยกู้ผิวหมอง
    ให้ดูไบร์ท ฉ่ำใสแบบไม่แสบ ไม่ระคายเคือง
    เหมาะกับทุกสภาพผิว ใช้แล้วรู้สึกได้เลยว่าผิวสดชื่นขึ้นจริงๆ
    ผิวที่ดี...เริ่มจากการดูแลถูกวิธี และต่อเนื่องเพียงไม่กี่นาทีต่อวัน
    ของหมดไวมาก รีบกดก่อนของหมด https://areemart.com/product/a129-1alb8
    #มาส์กรัชชา #วิตซีมาส์กหน้า #ผิวใสไม่ต้องรอ #Areemart
    "แค่มาส์ก...ผิวก็ใสขึ้นแบบไม่ต้องรอคลินิก" 🍊 วิตซีเข้มข้นในรูปแบบมาส์กหน้าแผ่นเดียวที่ช่วยกู้ผิวหมอง ให้ดูไบร์ท ฉ่ำใสแบบไม่แสบ ไม่ระคายเคือง เหมาะกับทุกสภาพผิว ใช้แล้วรู้สึกได้เลยว่าผิวสดชื่นขึ้นจริงๆ 🧡 ผิวที่ดี...เริ่มจากการดูแลถูกวิธี และต่อเนื่องเพียงไม่กี่นาทีต่อวัน ของหมดไวมาก รีบกดก่อนของหมด 👉 https://areemart.com/product/a129-1alb8 #มาส์กรัชชา #วิตซีมาส์กหน้า #ผิวใสไม่ต้องรอ #Areemart
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 2K Views 9 0 Reviews
More Results
fornote https://fornote.in.th