• เกมพลิก! เขมรหมดงบ ประชาชนอพยพกลับบ้าน หลังอาเซียนแก้เกมหนัก และสหรัฐฯ ถอนตัว
    สถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาได้พลิกผันอย่างคาดไม่ถึง!

    ความจริงถูกเปิดเผย: ขณะที่กัมพูชาพยายามสร้างภาพว่าเป็นเหยื่อ แต่ไทยได้พาคณะทูตานุทูตและสื่อมวลชนกว่า 150 ชีวิต ลงพื้นที่เพื่อเปิดเผยความจริงถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นในฝั่งไทย ทั้งจากร้านค้าที่ถูกทำลายและประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ต้องเสียชีวิต ทำให้ประชาคมโลกได้เห็นว่าใครคือผู้รุกรานที่แท้จริง

    ชาวกัมพูชาอพยพกลับ: ประชาชนชาวกัมพูชาเกือบ 3 แสนคน ที่ต้องอพยพหนีภัยสงครามได้ทยอยเดินทางกลับบ้าน หลังจากรัฐบาลกัมพูชาประสบปัญหา ขาดงบประมาณ ในการดูแลและจัดหาอาหารเลี้ยงดูผู้ประสบภัย

    สหรัฐฯ ถอยทัพ: การที่กัมพูชาพยายามดึงสหรัฐฯ เข้ามาในภูมิภาค ทำให้เวียดนามและชาติสมาชิกอาเซียนส่วนใหญ่ไม่พอใจ และเมื่อรัสเซียเข้ามามีบทบาทร่วมกับลาวและเวียดนาม สหรัฐฯ ก็ตัดสินใจ "ชิ่งหนี" ปล่อยให้กัมพูชาต้องเผชิญชะตากรรมตามลำพัง

    บทเรียนราคาแพง: เหตุการณ์นี้เป็นเครื่องเตือนใจว่าการเมืองไม่ใช่เกมที่จะเอาชีวิตประชาชนมาเป็นตัวประกันได้ และสุดท้ายแล้ว "ความจริงจะชนะทุกอย่าง" เสมอ

    บทสรุปนี้สะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวในการบริหารจัดการของรัฐบาลกัมพูชา และการถูกโดดเดี่ยวทางการเมืองในระดับภูมิภาค ทำให้เกมพลิกไปอย่างสิ้นเชิง

    #เขมรหมดงบ #อพยพกลับบ้าน #อาเซียนแก้เกม #อเมริกาทิ้งเขมร #รัสเซียแจมวง #ความจริงจะชนะทุกอย่าง
    เกมพลิก! เขมรหมดงบ ประชาชนอพยพกลับบ้าน หลังอาเซียนแก้เกมหนัก และสหรัฐฯ ถอนตัว สถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาได้พลิกผันอย่างคาดไม่ถึง! ความจริงถูกเปิดเผย: ขณะที่กัมพูชาพยายามสร้างภาพว่าเป็นเหยื่อ แต่ไทยได้พาคณะทูตานุทูตและสื่อมวลชนกว่า 150 ชีวิต ลงพื้นที่เพื่อเปิดเผยความจริงถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นในฝั่งไทย ทั้งจากร้านค้าที่ถูกทำลายและประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ต้องเสียชีวิต ทำให้ประชาคมโลกได้เห็นว่าใครคือผู้รุกรานที่แท้จริง ชาวกัมพูชาอพยพกลับ: ประชาชนชาวกัมพูชาเกือบ 3 แสนคน ที่ต้องอพยพหนีภัยสงครามได้ทยอยเดินทางกลับบ้าน หลังจากรัฐบาลกัมพูชาประสบปัญหา ขาดงบประมาณ ในการดูแลและจัดหาอาหารเลี้ยงดูผู้ประสบภัย สหรัฐฯ ถอยทัพ: การที่กัมพูชาพยายามดึงสหรัฐฯ เข้ามาในภูมิภาค ทำให้เวียดนามและชาติสมาชิกอาเซียนส่วนใหญ่ไม่พอใจ และเมื่อรัสเซียเข้ามามีบทบาทร่วมกับลาวและเวียดนาม สหรัฐฯ ก็ตัดสินใจ "ชิ่งหนี" ปล่อยให้กัมพูชาต้องเผชิญชะตากรรมตามลำพัง บทเรียนราคาแพง: เหตุการณ์นี้เป็นเครื่องเตือนใจว่าการเมืองไม่ใช่เกมที่จะเอาชีวิตประชาชนมาเป็นตัวประกันได้ และสุดท้ายแล้ว "ความจริงจะชนะทุกอย่าง" เสมอ บทสรุปนี้สะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวในการบริหารจัดการของรัฐบาลกัมพูชา และการถูกโดดเดี่ยวทางการเมืองในระดับภูมิภาค ทำให้เกมพลิกไปอย่างสิ้นเชิง #เขมรหมดงบ #อพยพกลับบ้าน #อาเซียนแก้เกม #อเมริกาทิ้งเขมร #รัสเซียแจมวง #ความจริงจะชนะทุกอย่าง
    0 Comments 0 Shares 2K Views 0 Reviews
  • สิ่งที่ฮุนเซนต้องการจริงๆ ไม่ใช่แค่การสู้รบชายแดน แต่คือการกำจัดทหารที่อาจไม่ภักดีต่ออำนาจของตระกูลฮุน?
    ตอนนี้ฮุนเซนลดงบประมาณของกองทัพลงอย่างมีนัยยะ แล้วโยกเงินไปสร้าง “กองกำลังพิเศษ” ที่มีเฉพาะคนใกล้ชิดเท่านั้นที่ได้ใช้อาวุธทันสมัย
    ทหารกัมพูชาธรรมดาไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้สัมผัสอาวุธเหล่านั้น แต่กลับถูกส่งไปตายชายแดน ด้วยคำว่ารักชาติบังหน้า
    ล่าสุด ฮุน เซนกำลังจะส่ง “กองทัพเรือ” มาปะทะ ทั้งๆ ที่ไม่มีข้อพิพาททางทะเลกับไทย เรือรบก็ยังไม่มีพร้อม แต่นายพลกับกำลังพลกลับถูกสั่งให้ออกหน้าไปตาย
    นี่มันแปลกเกินไป และชัดเจนว่าไม่ใช่สงครามเพื่อประเทศชาติ แต่คือสงครามเพื่อรักษาอำนาจของตระกูล
    ไม่มีผู้นำที่ไหนในโลกจะบ้าเลือดถึงขนาดส่งลูกน้องตัวเองไปตาย ทั้งๆ ที่รู้ว่าแพ้แน่
    ประเทศเล็กอย่างกัมพูชา ประชาคมโลกอาจไม่ใส่ใจ แต่ความจริงคือ… ทหารกัมพูชากำลังถูกใช้เป็นเหยื่อในเกมอำนาจของคนๆ เดียว
    What Hun Sen truly wants isn’t just a border war — it’s to eliminate soldiers who may no longer be loyal to his dynasty.
    He has quietly slashed the national military budget and redirected funds to build a “special guard force” equipped with state-of-the-art weapons, available only to those loyal to him personally.
    Ordinary Cambodian soldiers never even get to touch this kind of equipment. Instead, they’re sent to die on the frontlines — all in the name of nationalism.
    And now, Hun Sen is preparing to send the navy to the battlefield — even though there is no maritime dispute with Thailand. There aren’t even proper warships ready, yet generals and sailors are being deployed to die.
    It’s not just strange. It’s strategic.
    This is not a war for the country. It’s a purge — a calculated operation to remove anyone in uniform who might challenge the Hun dynasty’s grip on power.
    No rational leader would send his own men to die knowing they will lose — unless death is the plan.
    The world may ignore a small country like Cambodia, but the truth is this:
    Cambodian soldiers are being sacrificed — not for the nation — but for one man’s throne.
    អ្វីដែលហ៊ុន សែនចង់បានមែនមិនមែនសង្គ្រាមព្រំដែនទេ — តែគឺការបញ្ជប់ទាហានដែលអាចនឹងមិនស្មោះត្រង់នឹងរាជវង្សរបស់គាត់។
    គាត់បានកាត់បន្ថយថវិកាថ្នាក់យោធាជាសម្ងាត់ ហើយបញ្ចូនថវិកាទៅកែលំអកងពិសេសសម្រាប់ការការពារខ្លួនឯង ដែលមានអាវុធស្ទើរតែទំនើបបំផុត ហើយមានតែអ្នកដែលស្មោះត្រង់តែប៉ុណ្ណោះទទួលបាន។
    ទាហានជាធម្មតាមិនបានស្ទាប់ដល់អាវុធទំនើបទេ។ តែនៅទីបំផុត ត្រូវបញ្ជូនទៅស្លាប់នៅតំបន់ព្រំដែន ដោយប្រើពាក្យថា “ស្មោះនឹងជាតិ” ជាអាវការពារ។
    ឥឡូវនេះ ហ៊ុន សែនកំពុងរៀបចំផ្ញើកងទ័ពជើងទឹកចូលសង្រ្គាម ទោះបីជាមិនមានវិវាទសមុទ្រជាមួយថៃផងដែរ។ កប៉ាល់ប្រយុទ្ធក៏មិនទាន់មានត្រៀមខ្លួនរួចផង ស៉ាងតែឧត្តមសេនីយ៍ និងទាហានត្រូវបានផ្ញើឲ្យទៅស្លាប់។
    នេះមិនមែនគ្រាន់តែចម្លែកទេ — តែជាយុទ្ធសាស្រ្ត។
    នេះមិនមែនជាសង្គ្រាមដើម្បីប្រទេសនោះទេ។ តែជាការបំផ្លាញមនុស្សក្នុងយុទ្ធភោគដែលអាចជាបញ្ហាដល់អំណាចរបស់គាត់។
    មិនមានមេដឹកនាំណាដែលស្មារតីទៀសទេនឹងបញ្ជូនកងទ័ពឯងទៅស្លាប់ ប្រសិនបើគាត់ដឹងថាពួកគេនឹងចាញ់ — លើកលែងតែ “ការស្លាប់” ជាគម្រោងដើម។
    ពិភពលោកអាចមិនខ្វល់អំពីប្រទេសតូចៗដូចជា កម្ពុជា។ តែការពិតគឺ៖
    ទាហានកម្ពុជាកំពុងត្រូវបានប្រើជាសាច់ញាតិ នៅក្នុងហ្គេមអំណាចរបស់មនុស្សតែម្ដង។
    #แฉฮุนเซน
    #ทหารเขมรถูกหลอก
    #สงครามเพื่ออำนาจ
    #ฮุนเซนส่งคนมาตาย
    #กองทัพส่วนตัวฮุนเซน
    #ทหารธรรมดาคือเหยื่อ
    #ล้างบางกองทัพ
    #เขมรไม่ใช่ของตระกูลเดียว
    #หยุดฮุนราชวงศ์
    #กัมพูชายิงก่อน
    #เกมการเมืองใช้เลือดคน
    #ปกป้องแผ่นดินไทย
    #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    #กัมพูชายิงก่อน
    #CambodiaOpenedFire
    #hunsenwarcriminal
    #ฮุนเซนอาชญากรสงคราม
    #ឧក្រិដ្ឋជនហ៊ុនសែន
    #洪森戰爭罪犯
    CR CSI LA
    สิ่งที่ฮุนเซนต้องการจริงๆ ไม่ใช่แค่การสู้รบชายแดน แต่คือการกำจัดทหารที่อาจไม่ภักดีต่ออำนาจของตระกูลฮุน? ตอนนี้ฮุนเซนลดงบประมาณของกองทัพลงอย่างมีนัยยะ แล้วโยกเงินไปสร้าง “กองกำลังพิเศษ” ที่มีเฉพาะคนใกล้ชิดเท่านั้นที่ได้ใช้อาวุธทันสมัย ทหารกัมพูชาธรรมดาไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้สัมผัสอาวุธเหล่านั้น แต่กลับถูกส่งไปตายชายแดน ด้วยคำว่ารักชาติบังหน้า ล่าสุด ฮุน เซนกำลังจะส่ง “กองทัพเรือ” มาปะทะ ทั้งๆ ที่ไม่มีข้อพิพาททางทะเลกับไทย เรือรบก็ยังไม่มีพร้อม แต่นายพลกับกำลังพลกลับถูกสั่งให้ออกหน้าไปตาย นี่มันแปลกเกินไป และชัดเจนว่าไม่ใช่สงครามเพื่อประเทศชาติ แต่คือสงครามเพื่อรักษาอำนาจของตระกูล ไม่มีผู้นำที่ไหนในโลกจะบ้าเลือดถึงขนาดส่งลูกน้องตัวเองไปตาย ทั้งๆ ที่รู้ว่าแพ้แน่ ประเทศเล็กอย่างกัมพูชา ประชาคมโลกอาจไม่ใส่ใจ แต่ความจริงคือ… ทหารกัมพูชากำลังถูกใช้เป็นเหยื่อในเกมอำนาจของคนๆ เดียว What Hun Sen truly wants isn’t just a border war — it’s to eliminate soldiers who may no longer be loyal to his dynasty. He has quietly slashed the national military budget and redirected funds to build a “special guard force” equipped with state-of-the-art weapons, available only to those loyal to him personally. Ordinary Cambodian soldiers never even get to touch this kind of equipment. Instead, they’re sent to die on the frontlines — all in the name of nationalism. And now, Hun Sen is preparing to send the navy to the battlefield — even though there is no maritime dispute with Thailand. There aren’t even proper warships ready, yet generals and sailors are being deployed to die. It’s not just strange. It’s strategic. This is not a war for the country. It’s a purge — a calculated operation to remove anyone in uniform who might challenge the Hun dynasty’s grip on power. No rational leader would send his own men to die knowing they will lose — unless death is the plan. The world may ignore a small country like Cambodia, but the truth is this: Cambodian soldiers are being sacrificed — not for the nation — but for one man’s throne. អ្វីដែលហ៊ុន សែនចង់បានមែនមិនមែនសង្គ្រាមព្រំដែនទេ — តែគឺការបញ្ជប់ទាហានដែលអាចនឹងមិនស្មោះត្រង់នឹងរាជវង្សរបស់គាត់។ គាត់បានកាត់បន្ថយថវិកាថ្នាក់យោធាជាសម្ងាត់ ហើយបញ្ចូនថវិកាទៅកែលំអកងពិសេសសម្រាប់ការការពារខ្លួនឯង ដែលមានអាវុធស្ទើរតែទំនើបបំផុត ហើយមានតែអ្នកដែលស្មោះត្រង់តែប៉ុណ្ណោះទទួលបាន។ ទាហានជាធម្មតាមិនបានស្ទាប់ដល់អាវុធទំនើបទេ។ តែនៅទីបំផុត ត្រូវបញ្ជូនទៅស្លាប់នៅតំបន់ព្រំដែន ដោយប្រើពាក្យថា “ស្មោះនឹងជាតិ” ជាអាវការពារ។ ឥឡូវនេះ ហ៊ុន សែនកំពុងរៀបចំផ្ញើកងទ័ពជើងទឹកចូលសង្រ្គាម ទោះបីជាមិនមានវិវាទសមុទ្រជាមួយថៃផងដែរ។ កប៉ាល់ប្រយុទ្ធក៏មិនទាន់មានត្រៀមខ្លួនរួចផង ស៉ាងតែឧត្តមសេនីយ៍ និងទាហានត្រូវបានផ្ញើឲ្យទៅស្លាប់។ នេះមិនមែនគ្រាន់តែចម្លែកទេ — តែជាយុទ្ធសាស្រ្ត។ នេះមិនមែនជាសង្គ្រាមដើម្បីប្រទេសនោះទេ។ តែជាការបំផ្លាញមនុស្សក្នុងយុទ្ធភោគដែលអាចជាបញ្ហាដល់អំណាចរបស់គាត់។ មិនមានមេដឹកនាំណាដែលស្មារតីទៀសទេនឹងបញ្ជូនកងទ័ពឯងទៅស្លាប់ ប្រសិនបើគាត់ដឹងថាពួកគេនឹងចាញ់ — លើកលែងតែ “ការស្លាប់” ជាគម្រោងដើម។ ពិភពលោកអាចមិនខ្វល់អំពីប្រទេសតូចៗដូចជា កម្ពុជា។ តែការពិតគឺ៖ ទាហានកម្ពុជាកំពុងត្រូវបានប្រើជាសាច់ញាតិ នៅក្នុងហ្គេមអំណាចរបស់មនុស្សតែម្ដង។ #แฉฮุนเซน #ทหารเขมรถูกหลอก #สงครามเพื่ออำนาจ #ฮุนเซนส่งคนมาตาย #กองทัพส่วนตัวฮุนเซน #ทหารธรรมดาคือเหยื่อ #ล้างบางกองทัพ #เขมรไม่ใช่ของตระกูลเดียว #หยุดฮุนราชวงศ์ #กัมพูชายิงก่อน #เกมการเมืองใช้เลือดคน #ปกป้องแผ่นดินไทย #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #hunsenwarcriminal #ฮุนเซนอาชญากรสงคราม #ឧក្រិដ្ឋជនហ៊ុនសែន #洪森戰爭罪犯 CR CSI LA
    0 Comments 0 Shares 3K Views 0 Reviews
  • ตีป้อมเขมร! วันที่ 2 ดุยิ่งกว่าเดิม!
    ปะทะเดือดชายแดน! ไทย-เขมรเปิดฉากยิงยับ สนั่นแนวเขาพระวิหาร-ช่องบก

    เช้าวันที่ 25 ก.ค. 2568 เสียงปืนดังลั่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง! บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาเข้าสู่วันที่สองของการปะทะกันแบบดุเดือดเลือดพล่าน จนคนไทยทั้งประเทศต้องจับตา

    เวลา ตีสี่ครึ่ง ทหารกัมพูชาดันเปิดเกมก่อน ยิงมาแบบไม่ยั้งรอบๆ บริเวณ ปราสาทพระวิหาร อย่างกับนรกแตก! ฝั่งไทยก็ไม่รอช้า กองพันทหารราบที่ 21 ซึ่งดูแลแนว พื้นที่กษัตริย์ศึก รีบเข้าตรวจสอบ พบว่าทหารเขมรเดินหน้ามาประชิดเต็มแนวชายแดน

    05.25 น. ทหารไทยเปิดฉากสวนกลับ! โดยใช้กำลังจาก กรมทหารราบเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ 2 ยิงตอบโต้แนวเขมรบริเวณกงจักร หลังฝ่ายตรงข้ามใช้อาวุธหนักสาดใส่แบบไม่สนใจอะไรทั้งนั้น!

    05.50 น. ฝั่งเขมรเริ่มขยับของหนัก รถถัง 6 คันขยับมาประจันหน้าตรงจุดพิกัด 5298887609 ตรงข้ามช่องปลดต่าง เรียงหน้ากระดานพร้อมรบ! งานนี้ไม่ได้มาเล่นๆ ฝ่ายไทยต้องงัดทุกไม้เด็ดขึ้นมาสู้

    06.29 น. ศึกดุเดือนยิ่งขึ้นเมื่อกัมพูชาระดมยิงปืนใหญ่-ปืนค. ใส่ฝั่งไทยบริเวณ เนิน 408 หวังยึด เนิน 469 ไว้เป็นจุดได้เปรียบ พิกัดยุทธศาสตร์ตรง ช่องบก ฝั่งเขมรเล่นใหญ่ ใช้ BM-21 จาก อำเภอจอมกระสาน ยิงกระหน่ำไปทางซัมแตกอย่างบ้าคลั่ง ฝ่ายไทยก็ไม่ยอม!! จัดเต็มด้วย ปืนใหญ่ 155 มม. ยิงสวนสนั่นป่า

    04.54 น. หน่วยทหารพรานที่ 26 ยังไม่เจอการปะทะตรงจุดแนวหน้า แต่ก็เตรียมพร้อมรบตลอดเวลา ขณะเดียวกัน หน่วยรถถังเบา Scorpion ของไทยประจำข้าง ปราสาทตาเมือนธม ก็เข้าร่วมสนับสนุนการยิงอย่างหนักหน่วง

    05.35 น. ไทยขอกำลังสนับสนุนปืนใหญ่ ยิงตรง หลังเนินโนเนม และทำลายรถถังเขมรฝั่งตรงข้ามช่องบกแบบไม่ปรานี

    05.50 น. หน่วยรบไทยเริ่มเข้าตีจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ภูมะเขือ ด้านทิศใต้ จัดหนักเพื่อกดดันทัพเขมรที่ขยับเข้ามาไม่หยุด

    เสียงปืนยังไม่จางหาย ความตึงเครียดบนแนวชายแดนยังคุกรุ่น... คนไทยต้องจับมือกันแน่นๆ รู้ไว้! เราไม่ได้ถอย และจะไม่ยอมเสียแผ่นดินแม้แต่วาเดียวให้ใครหน้าไหน!

    “แผ่นดินไทย ไม่ใช่ของแจกฟรี! ใครกล้ารุก เรากล้ายืนหยัด!”

    notezbook

    #fyp #ข่าว #การเมือง #เขมร #กัมพูชา
    ตีป้อมเขมร! วันที่ 2 ดุยิ่งกว่าเดิม! ปะทะเดือดชายแดน! ไทย-เขมรเปิดฉากยิงยับ สนั่นแนวเขาพระวิหาร-ช่องบก เช้าวันที่ 25 ก.ค. 2568 เสียงปืนดังลั่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง! บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาเข้าสู่วันที่สองของการปะทะกันแบบดุเดือดเลือดพล่าน จนคนไทยทั้งประเทศต้องจับตา เวลา ตีสี่ครึ่ง ทหารกัมพูชาดันเปิดเกมก่อน ยิงมาแบบไม่ยั้งรอบๆ บริเวณ ปราสาทพระวิหาร อย่างกับนรกแตก! ฝั่งไทยก็ไม่รอช้า กองพันทหารราบที่ 21 ซึ่งดูแลแนว พื้นที่กษัตริย์ศึก รีบเข้าตรวจสอบ พบว่าทหารเขมรเดินหน้ามาประชิดเต็มแนวชายแดน 05.25 น. ทหารไทยเปิดฉากสวนกลับ! โดยใช้กำลังจาก กรมทหารราบเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ 2 ยิงตอบโต้แนวเขมรบริเวณกงจักร หลังฝ่ายตรงข้ามใช้อาวุธหนักสาดใส่แบบไม่สนใจอะไรทั้งนั้น! 05.50 น. ฝั่งเขมรเริ่มขยับของหนัก รถถัง 6 คันขยับมาประจันหน้าตรงจุดพิกัด 5298887609 ตรงข้ามช่องปลดต่าง เรียงหน้ากระดานพร้อมรบ! งานนี้ไม่ได้มาเล่นๆ ฝ่ายไทยต้องงัดทุกไม้เด็ดขึ้นมาสู้ 06.29 น. ศึกดุเดือนยิ่งขึ้นเมื่อกัมพูชาระดมยิงปืนใหญ่-ปืนค. ใส่ฝั่งไทยบริเวณ เนิน 408 หวังยึด เนิน 469 ไว้เป็นจุดได้เปรียบ พิกัดยุทธศาสตร์ตรง ช่องบก ฝั่งเขมรเล่นใหญ่ ใช้ BM-21 จาก อำเภอจอมกระสาน ยิงกระหน่ำไปทางซัมแตกอย่างบ้าคลั่ง ฝ่ายไทยก็ไม่ยอม!! จัดเต็มด้วย ปืนใหญ่ 155 มม. ยิงสวนสนั่นป่า 04.54 น. หน่วยทหารพรานที่ 26 ยังไม่เจอการปะทะตรงจุดแนวหน้า แต่ก็เตรียมพร้อมรบตลอดเวลา ขณะเดียวกัน หน่วยรถถังเบา Scorpion ของไทยประจำข้าง ปราสาทตาเมือนธม ก็เข้าร่วมสนับสนุนการยิงอย่างหนักหน่วง 05.35 น. ไทยขอกำลังสนับสนุนปืนใหญ่ ยิงตรง หลังเนินโนเนม และทำลายรถถังเขมรฝั่งตรงข้ามช่องบกแบบไม่ปรานี 05.50 น. หน่วยรบไทยเริ่มเข้าตีจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ภูมะเขือ ด้านทิศใต้ จัดหนักเพื่อกดดันทัพเขมรที่ขยับเข้ามาไม่หยุด เสียงปืนยังไม่จางหาย ความตึงเครียดบนแนวชายแดนยังคุกรุ่น... คนไทยต้องจับมือกันแน่นๆ รู้ไว้! เราไม่ได้ถอย และจะไม่ยอมเสียแผ่นดินแม้แต่วาเดียวให้ใครหน้าไหน! “แผ่นดินไทย ไม่ใช่ของแจกฟรี! ใครกล้ารุก เรากล้ายืนหยัด!” notezbook #fyp #ข่าว #การเมือง #เขมร #กัมพูชา
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 1K Views 0 Reviews
  • มื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 ศาลปกครองสูงสุด ได้มีคำพิพากษาในคดีที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าวของอดีตนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

    สรุปคำพิพากษาและรายละเอียดสำคัญ:

    ยกเลิกคำสั่งเดิมของกระทรวงการคลังบางส่วน: ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่ง เพิกถอนคำสั่งของกระทรวงการคลัง ที่ 1341/2559 ลงวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ที่สั่งให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเต็มจำนวน 35,717 ล้านบาท ในกรณีปล่อยให้เกิดความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการ
    ให้ชดใช้ค่าเสียหายเฉพาะส่วนของการระบายข้าวแบบ G2G: ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเฉพาะส่วนที่เกิดจากการระระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (G2G) จำนวน 50% ของมูลค่าความเสียหาย 20,057,723,761 บาท ซึ่งคิดเป็นเงินประมาณ 10,028,861,880 บาท (หนึ่งหมื่นยี่สิบแปดล้านแปดแสนหกหมื่นหนึ่งพันแปดร้อยแปดสิบบาท)
    เหตุผล: ศาลเห็นว่า การกระทำที่เกี่ยวข้องกับการระบายข้าวแบบ G2G เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและก่อให้เกิดความเสียหาย
    คำพิพากษาศาลฎีกาฯ (คดีอาญา): ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2560 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้มีคำพิพากษาลับหลังจำคุกนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นเวลา 5 ปี โดยไม่รอลงอาญา ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว และออกหมายจับนางสาวยิ่งลักษณ์ ซึ่งในขณะนั้นไม่ได้เดินทางมาศาล
    ท่าทีของนางสาวยิ่งลักษณ์: หลังคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่ารู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม และจำนวนเงินที่ต้องชดใช้เป็นจำนวนมหาศาลที่ยากจะชดใช้หมดตลอดชีวิตที่เหลือ และจะต่อสู้ทางกฎหมายต่อไป
    ความหมายของคดี:

    คดีจำนำข้าวเป็นคดีที่มีความซับซ้อนและมีผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อการเมืองและสังคมไทย โดยมีประเด็นทั้งด้านการบริหารราชการแผ่นดิน การทุจริต และความรับผิดชอบของนักการเมือง
    มื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 ศาลปกครองสูงสุด ได้มีคำพิพากษาในคดีที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าวของอดีตนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สรุปคำพิพากษาและรายละเอียดสำคัญ: ยกเลิกคำสั่งเดิมของกระทรวงการคลังบางส่วน: ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่ง เพิกถอนคำสั่งของกระทรวงการคลัง ที่ 1341/2559 ลงวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ที่สั่งให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเต็มจำนวน 35,717 ล้านบาท ในกรณีปล่อยให้เกิดความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการ ให้ชดใช้ค่าเสียหายเฉพาะส่วนของการระบายข้าวแบบ G2G: ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเฉพาะส่วนที่เกิดจากการระระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (G2G) จำนวน 50% ของมูลค่าความเสียหาย 20,057,723,761 บาท ซึ่งคิดเป็นเงินประมาณ 10,028,861,880 บาท (หนึ่งหมื่นยี่สิบแปดล้านแปดแสนหกหมื่นหนึ่งพันแปดร้อยแปดสิบบาท) เหตุผล: ศาลเห็นว่า การกระทำที่เกี่ยวข้องกับการระบายข้าวแบบ G2G เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและก่อให้เกิดความเสียหาย คำพิพากษาศาลฎีกาฯ (คดีอาญา): ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2560 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้มีคำพิพากษาลับหลังจำคุกนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นเวลา 5 ปี โดยไม่รอลงอาญา ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว และออกหมายจับนางสาวยิ่งลักษณ์ ซึ่งในขณะนั้นไม่ได้เดินทางมาศาล ท่าทีของนางสาวยิ่งลักษณ์: หลังคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่ารู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม และจำนวนเงินที่ต้องชดใช้เป็นจำนวนมหาศาลที่ยากจะชดใช้หมดตลอดชีวิตที่เหลือ และจะต่อสู้ทางกฎหมายต่อไป ความหมายของคดี: คดีจำนำข้าวเป็นคดีที่มีความซับซ้อนและมีผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อการเมืองและสังคมไทย โดยมีประเด็นทั้งด้านการบริหารราชการแผ่นดิน การทุจริต และความรับผิดชอบของนักการเมือง
    0 Comments 0 Shares 2K Views 0 Reviews
fornote https://fornote.in.th