• เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2568 เวลา 13.00 น. ผมได้เข้าร่วมรับฟังการประชุมวางแผนงาน “90 ปีลำปลายมาศ เมืองน่าอยู่” โดยมีท่าน โสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน

    ระหว่างนั้น กลุ่ม “รักเพื่อน” ได้เข้าแสดงความยินดีแก่ท่านรองนายกฯ ในโอกาสที่ได้รับตำแหน่งใหม่

    งาน 90 ปีลำปลายมาศ เมืองน่าอยู่

    ใช้คำขวัญประจำอำเภอลำปลายมาศ

    อำเภอเป็นผู้สั่งการ

    เทศบาลเป็นเจ้าภาพหลัก

    งบประมาณจากเทศบาล, มูลนิธิอาณัตพณ ซารัมย์ (ลูกเติ้ง) และพี่น้องประชาชนร่วมสมทบ

    เพิ่มเติม
    ในงานจะมี กิจกรรมการวิ่ง 90 ปีลำปลายมาศ เมืองน่าอยู่

    เปิดรับสมัครนักวิ่งทุกท่าน

    มีการจัดจำหน่ายเสื้อที่ระลึกประจำงาน (จำนวนจำกัด)

    รายได้ส่วนหนึ่งจะนำไปสมทบกิจกรรมสาธารณประโยชน์ของอำเภอ

    ลำดับงานและรายละเอียดกิจกรรม เป็นไปตามไฟล์แนบครับ
    ขอเชิญชวนพี่น้องทุกท่านร่วมสมัครวิ่ง และสนับสนุนการซื้อเสื้อที่ระลึก เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานใหญ่ของบ้านเรา
    เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2568 เวลา 13.00 น. ผมได้เข้าร่วมรับฟังการประชุมวางแผนงาน “90 ปีลำปลายมาศ เมืองน่าอยู่” โดยมีท่าน โสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ระหว่างนั้น กลุ่ม “รักเพื่อน” ได้เข้าแสดงความยินดีแก่ท่านรองนายกฯ ในโอกาสที่ได้รับตำแหน่งใหม่ งาน 90 ปีลำปลายมาศ เมืองน่าอยู่ ใช้คำขวัญประจำอำเภอลำปลายมาศ อำเภอเป็นผู้สั่งการ เทศบาลเป็นเจ้าภาพหลัก งบประมาณจากเทศบาล, มูลนิธิอาณัตพณ ซารัมย์ (ลูกเติ้ง) และพี่น้องประชาชนร่วมสมทบ 📌 เพิ่มเติม ในงานจะมี กิจกรรมการวิ่ง 90 ปีลำปลายมาศ เมืองน่าอยู่ เปิดรับสมัครนักวิ่งทุกท่าน มีการจัดจำหน่ายเสื้อที่ระลึกประจำงาน (จำนวนจำกัด) รายได้ส่วนหนึ่งจะนำไปสมทบกิจกรรมสาธารณประโยชน์ของอำเภอ ลำดับงานและรายละเอียดกิจกรรม เป็นไปตามไฟล์แนบครับ ขอเชิญชวนพี่น้องทุกท่านร่วมสมัครวิ่ง และสนับสนุนการซื้อเสื้อที่ระลึก เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานใหญ่ของบ้านเรา 🙏
    0 Comments 0 Shares 458 Views 0 Reviews
  • คำชี้แจงจุดรวมขยะ

    เส้นถนนอนุสรณ์มวลชน ตั้งแต่โรงเรียนอนุบาลลำปลายมาศ ไปทางทิศใต้

    ช่วงนี้ทางหมู่บ้านได้ เก็บถังขยะออก เพื่อปรับปรุงระบบจัดการขยะ
    จึงขอความร่วมมือลูกบ้านทุกท่านดังนี้

    1. โปรดนำขยะมารวมกัน ตามจุดที่กำหนดไว้ในแผนภาพ


    2. มัดถุงดำให้แน่น และ ระบุบ้านเลขที่ ทุกครั้ง

    เพื่อความเป็นระเบียบ

    เพื่อป้องกันและตรวจสอบขยะที่มาจากนอกพื้นที่



    3. รถเก็บขยะจะเข้าเก็บ ช่วงตี 3 ของทุกวัน

    ขอความกรุณานำขยะออกมารวมรอก่อนเวลาค่ำ




    การดำเนินการนี้เพื่อให้หมู่บ้านของเราสะอาด เป็นระเบียบ และลดปัญหาขยะจากภายนอก
    จึงเรียนมาเพื่อขอความร่วมมือจากทุกครัวเรือน

    ผู้ใหญ่บ้านบ้านเจริญมาศ หมู่ 9
    📢 คำชี้แจงจุดรวมขยะ เส้นถนนอนุสรณ์มวลชน ตั้งแต่โรงเรียนอนุบาลลำปลายมาศ ไปทางทิศใต้ ช่วงนี้ทางหมู่บ้านได้ เก็บถังขยะออก เพื่อปรับปรุงระบบจัดการขยะ จึงขอความร่วมมือลูกบ้านทุกท่านดังนี้ 1. โปรดนำขยะมารวมกัน ตามจุดที่กำหนดไว้ในแผนภาพ 2. มัดถุงดำให้แน่น และ ระบุบ้านเลขที่ ทุกครั้ง เพื่อความเป็นระเบียบ เพื่อป้องกันและตรวจสอบขยะที่มาจากนอกพื้นที่ 3. รถเก็บขยะจะเข้าเก็บ ช่วงตี 3 ของทุกวัน ขอความกรุณานำขยะออกมารวมรอก่อนเวลาค่ำ การดำเนินการนี้เพื่อให้หมู่บ้านของเราสะอาด เป็นระเบียบ และลดปัญหาขยะจากภายนอก จึงเรียนมาเพื่อขอความร่วมมือจากทุกครัวเรือน ผู้ใหญ่บ้านบ้านเจริญมาศ หมู่ 9
    0 Comments 0 Shares 293 Views 0 Reviews

  • แบบแผนปฏิบัติการชุมชนปลอดถังขยะ 100%

    บ้านเจริญมาศ หมู่ 9 ต.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์


    ---

    1. เป้าหมาย

    ลดการพึ่งพาถังขยะกลางให้หมด 100%

    ส่งเสริมให้ครัวเรือนทุกหลังคาเรือนจัดการขยะเอง

    ใช้ ธนาคารขยะ เป็นศูนย์กลางทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจชุมชน



    ---

    2. เงื่อนไขสำคัญ

    1. ครัวเรือนที่ เข้าร่วมโครงการธนาคารขยะ ต้องปฏิบัติตามกติกาแยกขยะครบทุกประเภท


    2. ครัวเรือนที่มีบัญชีธนาคารขยะและมีประวัติการส่งขยะสม่ำเสมอ จะ ได้รับสิทธิ์กู้เงินจากกองทุนหมู่บ้าน (กทบ.) ขั้นต่ำ 5,000 บาทขึ้นไป

    เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนค้าขาย ปรับปรุงบ้าน หรือกิจการเล็ก ๆ

    ใช้บัญชีธนาคารขยะเป็น “เอกสารยืนยัน” ว่าเข้าร่วมจริง



    3. หากครัวเรือนไม่ปฏิบัติตาม (ไม่แยกขยะ, ไม่ส่งขยะตามรอบ) จะ ถูกระงับสิทธิ์การกู้ กทบ. จนกว่าจะกลับมาเข้าร่วมตามกติกา




    ---

    3. การแบ่งประเภทขยะ

    รีไซเคิล → ส่งให้ธนาคารขยะ มีการบันทึกลงบัญชี

    อินทรีย์ → ทำปุ๋ยหมักที่บ้าน หรือร่วมกับศูนย์กลางหมู่บ้าน

    อันตราย → นำไปทิ้งที่จุดรับกลางหมู่บ้าน

    🗑 ทั่วไป → จัดเก็บแยก รอรถเก็บเฉพาะเดือนละครั้ง



    ---

    4. ขั้นตอนดำเนินงาน

    ระยะที่ 1: การเตรียมการ (1–2 เดือน)

    จัดประชุมหมู่บ้าน อธิบายโครงการและเงื่อนไขสิทธิ์กู้เงิน

    ลงทะเบียนเปิดบัญชีธนาคารขยะ → ใช้เป็น “บัตรผ่านสิทธิ์กู้เงิน”

    ประสานงานคณะกรรมการ กทบ. เพื่อรับรองเงื่อนไข


    ระยะที่ 2: ทดลองนำร่อง (3–4 เดือน)

    บ้านตัวอย่าง 20 หลังเริ่มทำจริง → ตรวจสอบการแยกขยะและบันทึกบัญชี

    ครัวเรือนต้นแบบสามารถยื่นกู้ กทบ. ได้เป็นชุดแรก


    ระยะที่ 3: ขยายผลทั้งหมู่บ้าน (5–12 เดือน)

    ทุกครัวเรือนต้องเปิดบัญชีธนาคารขยะ

    ผู้ที่ไม่เข้าร่วมจะ ไม่มีสิทธิ์กู้เงินจากกองทุนหมู่บ้าน

    ลดถังขยะกลางออกทีละจุด



    ---

    5. กลไกสนับสนุน

    ธนาคารขยะ → บัญชีทุกครัวเรือน = เงื่อนไขกู้เงิน

    กองทุนหมู่บ้าน (กทบ.) → ปล่อยกู้ขั้นต่ำ 5,000 บาท สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการ

    ผู้ใหญ่บ้านและคณะกรรมการ → ตรวจสอบและติดตามการปฏิบัติ



    ---

    6. ผลที่คาดว่าจะได้รับ

    ชุมชนสะอาด ไร้ถังขยะกลาง
    ครัวเรือนได้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ (ทั้งขายขยะและกู้เงินได้)
    การจัดการขยะผูกโยงกับ ความมั่นคงทางการเงิน ของชาวบ้าน
    กลายเป็น ชุมชนต้นแบบ ที่ทำสำเร็จทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ


    ---

    เงื่อนไขนี้ทำให้ ธนาคารขยะ = กุญแจสำคัญ ของการเข้าถึงเงินกู้ กทบ.
    เป็นแรงจูงใจที่เข้มข้น ชาวบ้านแทบทุกครัวเรือนจะต้องเข้าร่วมครับ
    📌 แบบแผนปฏิบัติการชุมชนปลอดถังขยะ 100% บ้านเจริญมาศ หมู่ 9 ต.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ --- 1. เป้าหมาย ลดการพึ่งพาถังขยะกลางให้หมด 100% ส่งเสริมให้ครัวเรือนทุกหลังคาเรือนจัดการขยะเอง ใช้ ธนาคารขยะ เป็นศูนย์กลางทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจชุมชน --- 2. เงื่อนไขสำคัญ 1. ครัวเรือนที่ เข้าร่วมโครงการธนาคารขยะ ต้องปฏิบัติตามกติกาแยกขยะครบทุกประเภท 2. ครัวเรือนที่มีบัญชีธนาคารขยะและมีประวัติการส่งขยะสม่ำเสมอ จะ ได้รับสิทธิ์กู้เงินจากกองทุนหมู่บ้าน (กทบ.) ขั้นต่ำ 5,000 บาทขึ้นไป เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนค้าขาย ปรับปรุงบ้าน หรือกิจการเล็ก ๆ ใช้บัญชีธนาคารขยะเป็น “เอกสารยืนยัน” ว่าเข้าร่วมจริง 3. หากครัวเรือนไม่ปฏิบัติตาม (ไม่แยกขยะ, ไม่ส่งขยะตามรอบ) จะ ถูกระงับสิทธิ์การกู้ กทบ. จนกว่าจะกลับมาเข้าร่วมตามกติกา --- 3. การแบ่งประเภทขยะ ♻️ รีไซเคิล → ส่งให้ธนาคารขยะ มีการบันทึกลงบัญชี 🌱 อินทรีย์ → ทำปุ๋ยหมักที่บ้าน หรือร่วมกับศูนย์กลางหมู่บ้าน ☣️ อันตราย → นำไปทิ้งที่จุดรับกลางหมู่บ้าน 🗑 ทั่วไป → จัดเก็บแยก รอรถเก็บเฉพาะเดือนละครั้ง --- 4. ขั้นตอนดำเนินงาน ระยะที่ 1: การเตรียมการ (1–2 เดือน) จัดประชุมหมู่บ้าน อธิบายโครงการและเงื่อนไขสิทธิ์กู้เงิน ลงทะเบียนเปิดบัญชีธนาคารขยะ → ใช้เป็น “บัตรผ่านสิทธิ์กู้เงิน” ประสานงานคณะกรรมการ กทบ. เพื่อรับรองเงื่อนไข ระยะที่ 2: ทดลองนำร่อง (3–4 เดือน) บ้านตัวอย่าง 20 หลังเริ่มทำจริง → ตรวจสอบการแยกขยะและบันทึกบัญชี ครัวเรือนต้นแบบสามารถยื่นกู้ กทบ. ได้เป็นชุดแรก ระยะที่ 3: ขยายผลทั้งหมู่บ้าน (5–12 เดือน) ทุกครัวเรือนต้องเปิดบัญชีธนาคารขยะ ผู้ที่ไม่เข้าร่วมจะ ไม่มีสิทธิ์กู้เงินจากกองทุนหมู่บ้าน ลดถังขยะกลางออกทีละจุด --- 5. กลไกสนับสนุน ธนาคารขยะ → บัญชีทุกครัวเรือน = เงื่อนไขกู้เงิน กองทุนหมู่บ้าน (กทบ.) → ปล่อยกู้ขั้นต่ำ 5,000 บาท สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการ ผู้ใหญ่บ้านและคณะกรรมการ → ตรวจสอบและติดตามการปฏิบัติ --- 6. ผลที่คาดว่าจะได้รับ ✅ ชุมชนสะอาด ไร้ถังขยะกลาง ✅ ครัวเรือนได้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ (ทั้งขายขยะและกู้เงินได้) ✅ การจัดการขยะผูกโยงกับ ความมั่นคงทางการเงิน ของชาวบ้าน ✅ กลายเป็น ชุมชนต้นแบบ ที่ทำสำเร็จทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ --- 📌 เงื่อนไขนี้ทำให้ ธนาคารขยะ = กุญแจสำคัญ ของการเข้าถึงเงินกู้ กทบ. เป็นแรงจูงใจที่เข้มข้น ชาวบ้านแทบทุกครัวเรือนจะต้องเข้าร่วมครับ
    0 Comments 0 Shares 573 Views 0 Reviews

  • แบบแผนปฏิบัติการชุมชนปลอดถังขยะ 100%

    บ้านเจริญมาศ หมู่ 9 ต.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์


    ---

    1. เป้าหมาย

    ลดการพึ่งพาถังขยะกลางให้หมด 100%

    ส่งเสริมให้ครัวเรือนทุกหลังคาเรือนจัดการขยะเอง

    ใช้ ธนาคารขยะ เป็นศูนย์กลางทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจชุมชน



    ---

    2. เงื่อนไขสำคัญ

    1. ครัวเรือนที่ เข้าร่วมโครงการธนาคารขยะ ต้องปฏิบัติตามกติกาแยกขยะครบทุกประเภท


    2. ครัวเรือนที่มีบัญชีธนาคารขยะและมีประวัติการส่งขยะสม่ำเสมอ จะ ได้รับสิทธิ์กู้เงินจากกองทุนหมู่บ้าน (กทบ.) ขั้นต่ำ 5,000 บาทขึ้นไป

    เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนค้าขาย ปรับปรุงบ้าน หรือกิจการเล็ก ๆ

    ใช้บัญชีธนาคารขยะเป็น “เอกสารยืนยัน” ว่าเข้าร่วมจริง



    3. หากครัวเรือนไม่ปฏิบัติตาม (ไม่แยกขยะ, ไม่ส่งขยะตามรอบ) จะ ถูกระงับสิทธิ์การกู้ กทบ. จนกว่าจะกลับมาเข้าร่วมตามกติกา




    ---

    3. การแบ่งประเภทขยะ

    รีไซเคิล → ส่งให้ธนาคารขยะ มีการบันทึกลงบัญชี

    อินทรีย์ → ทำปุ๋ยหมักที่บ้าน หรือร่วมกับศูนย์กลางหมู่บ้าน

    อันตราย → นำไปทิ้งที่จุดรับกลางหมู่บ้าน

    🗑 ทั่วไป → จัดเก็บแยก รอรถเก็บเฉพาะเดือนละครั้ง



    ---

    4. ขั้นตอนดำเนินงาน

    ระยะที่ 1: การเตรียมการ (1–2 เดือน)

    จัดประชุมหมู่บ้าน อธิบายโครงการและเงื่อนไขสิทธิ์กู้เงิน

    ลงทะเบียนเปิดบัญชีธนาคารขยะ → ใช้เป็น “บัตรผ่านสิทธิ์กู้เงิน”

    ประสานงานคณะกรรมการ กทบ. เพื่อรับรองเงื่อนไข


    ระยะที่ 2: ทดลองนำร่อง (3–4 เดือน)

    บ้านตัวอย่าง 20 หลังเริ่มทำจริง → ตรวจสอบการแยกขยะและบันทึกบัญชี

    ครัวเรือนต้นแบบสามารถยื่นกู้ กทบ. ได้เป็นชุดแรก


    ระยะที่ 3: ขยายผลทั้งหมู่บ้าน (5–12 เดือน)

    ทุกครัวเรือนต้องเปิดบัญชีธนาคารขยะ

    ผู้ที่ไม่เข้าร่วมจะ ไม่มีสิทธิ์กู้เงินจากกองทุนหมู่บ้าน

    ลดถังขยะกลางออกทีละจุด



    ---

    5. กลไกสนับสนุน

    ธนาคารขยะ → บัญชีทุกครัวเรือน = เงื่อนไขกู้เงิน

    กองทุนหมู่บ้าน (กทบ.) → ปล่อยกู้ขั้นต่ำ 5,000 บาท สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการ

    ผู้ใหญ่บ้านและคณะกรรมการ → ตรวจสอบและติดตามการปฏิบัติ



    ---

    6. ผลที่คาดว่าจะได้รับ

    ชุมชนสะอาด ไร้ถังขยะกลาง
    ครัวเรือนได้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ (ทั้งขายขยะและกู้เงินได้)
    การจัดการขยะผูกโยงกับ ความมั่นคงทางการเงิน ของชาวบ้าน
    กลายเป็น ชุมชนต้นแบบ ที่ทำสำเร็จทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ


    ---

    เงื่อนไขนี้ทำให้ ธนาคารขยะ = กุญแจสำคัญ ของการเข้าถึงเงินกู้ กทบ.
    เป็นแรงจูงใจที่เข้มข้น ชาวบ้านแทบทุกครัวเรือนจะต้องเข้าร่วมครับ
    📌 แบบแผนปฏิบัติการชุมชนปลอดถังขยะ 100% บ้านเจริญมาศ หมู่ 9 ต.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ --- 1. เป้าหมาย ลดการพึ่งพาถังขยะกลางให้หมด 100% ส่งเสริมให้ครัวเรือนทุกหลังคาเรือนจัดการขยะเอง ใช้ ธนาคารขยะ เป็นศูนย์กลางทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจชุมชน --- 2. เงื่อนไขสำคัญ 1. ครัวเรือนที่ เข้าร่วมโครงการธนาคารขยะ ต้องปฏิบัติตามกติกาแยกขยะครบทุกประเภท 2. ครัวเรือนที่มีบัญชีธนาคารขยะและมีประวัติการส่งขยะสม่ำเสมอ จะ ได้รับสิทธิ์กู้เงินจากกองทุนหมู่บ้าน (กทบ.) ขั้นต่ำ 5,000 บาทขึ้นไป เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนค้าขาย ปรับปรุงบ้าน หรือกิจการเล็ก ๆ ใช้บัญชีธนาคารขยะเป็น “เอกสารยืนยัน” ว่าเข้าร่วมจริง 3. หากครัวเรือนไม่ปฏิบัติตาม (ไม่แยกขยะ, ไม่ส่งขยะตามรอบ) จะ ถูกระงับสิทธิ์การกู้ กทบ. จนกว่าจะกลับมาเข้าร่วมตามกติกา --- 3. การแบ่งประเภทขยะ ♻️ รีไซเคิล → ส่งให้ธนาคารขยะ มีการบันทึกลงบัญชี 🌱 อินทรีย์ → ทำปุ๋ยหมักที่บ้าน หรือร่วมกับศูนย์กลางหมู่บ้าน ☣️ อันตราย → นำไปทิ้งที่จุดรับกลางหมู่บ้าน 🗑 ทั่วไป → จัดเก็บแยก รอรถเก็บเฉพาะเดือนละครั้ง --- 4. ขั้นตอนดำเนินงาน ระยะที่ 1: การเตรียมการ (1–2 เดือน) จัดประชุมหมู่บ้าน อธิบายโครงการและเงื่อนไขสิทธิ์กู้เงิน ลงทะเบียนเปิดบัญชีธนาคารขยะ → ใช้เป็น “บัตรผ่านสิทธิ์กู้เงิน” ประสานงานคณะกรรมการ กทบ. เพื่อรับรองเงื่อนไข ระยะที่ 2: ทดลองนำร่อง (3–4 เดือน) บ้านตัวอย่าง 20 หลังเริ่มทำจริง → ตรวจสอบการแยกขยะและบันทึกบัญชี ครัวเรือนต้นแบบสามารถยื่นกู้ กทบ. ได้เป็นชุดแรก ระยะที่ 3: ขยายผลทั้งหมู่บ้าน (5–12 เดือน) ทุกครัวเรือนต้องเปิดบัญชีธนาคารขยะ ผู้ที่ไม่เข้าร่วมจะ ไม่มีสิทธิ์กู้เงินจากกองทุนหมู่บ้าน ลดถังขยะกลางออกทีละจุด --- 5. กลไกสนับสนุน ธนาคารขยะ → บัญชีทุกครัวเรือน = เงื่อนไขกู้เงิน กองทุนหมู่บ้าน (กทบ.) → ปล่อยกู้ขั้นต่ำ 5,000 บาท สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการ ผู้ใหญ่บ้านและคณะกรรมการ → ตรวจสอบและติดตามการปฏิบัติ --- 6. ผลที่คาดว่าจะได้รับ ✅ ชุมชนสะอาด ไร้ถังขยะกลาง ✅ ครัวเรือนได้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ (ทั้งขายขยะและกู้เงินได้) ✅ การจัดการขยะผูกโยงกับ ความมั่นคงทางการเงิน ของชาวบ้าน ✅ กลายเป็น ชุมชนต้นแบบ ที่ทำสำเร็จทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ --- 📌 เงื่อนไขนี้ทำให้ ธนาคารขยะ = กุญแจสำคัญ ของการเข้าถึงเงินกู้ กทบ. เป็นแรงจูงใจที่เข้มข้น ชาวบ้านแทบทุกครัวเรือนจะต้องเข้าร่วมครับ
    0 Comments 0 Shares 523 Views 0 Reviews
  • ทอง ทอง ทอง...
    ตลอดปีที่ผ่านมา ราคาทองคำพุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง จากปัจจัยดอกเบี้ยสหรัฐฯ มีแนวโน้มลดลง เงินดอลลาร์อ่อนค่า ความไม่แน่นอนทางการค้า–การเมืองโลก และแรงซื้อจากธนาคารกลาง-กองทุน ETF ทำให้ความต้องการทองคำพุ่ง โดยเฉพาะทองคำแท่งที่เพิ่มขึ้นกว่า 25–38% ในไทย ขณะที่ทองรูปพรรณลดลง

    ‘ฮั่วเซ่งเฮง’ ประเมินสิ้นปีทองคำอาจแตะ 3,780 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือราว 56,000 บาท/บาททองคำ พร้อมชี้กลยุทธ์ลงทุนทั้งแบบเก็งกำไรสั้นผ่านบัญชี FCD การสะสมทองแท่งระยะยาว และการออมทองออนไลน์

    นอกจากนี้ยังมีแผนผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางทองคำอาเซียน ด้วยการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรม พัฒนาโลจิสติกส์ และเทคโนโลยี–แรงงาน เพื่อให้ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยและมีคุณค่าในยุคเศรษฐกิจผันผวน.

    ทอง ทอง ทอง... ตลอดปีที่ผ่านมา ราคาทองคำพุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง จากปัจจัยดอกเบี้ยสหรัฐฯ มีแนวโน้มลดลง เงินดอลลาร์อ่อนค่า ความไม่แน่นอนทางการค้า–การเมืองโลก และแรงซื้อจากธนาคารกลาง-กองทุน ETF ทำให้ความต้องการทองคำพุ่ง โดยเฉพาะทองคำแท่งที่เพิ่มขึ้นกว่า 25–38% ในไทย ขณะที่ทองรูปพรรณลดลง ‘ฮั่วเซ่งเฮง’ ประเมินสิ้นปีทองคำอาจแตะ 3,780 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือราว 56,000 บาท/บาททองคำ พร้อมชี้กลยุทธ์ลงทุนทั้งแบบเก็งกำไรสั้นผ่านบัญชี FCD การสะสมทองแท่งระยะยาว และการออมทองออนไลน์ นอกจากนี้ยังมีแผนผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางทองคำอาเซียน ด้วยการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรม พัฒนาโลจิสติกส์ และเทคโนโลยี–แรงงาน เพื่อให้ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยและมีคุณค่าในยุคเศรษฐกิจผันผวน.
    0 Comments 0 Shares 645 Views 0 Reviews
  • 12/09/68 13:35น. ที่บ้านเจริญมาศ หมู่ 9 ต.ลำปลายมาศ ได้ต้อนรับคณะประเมินการทำงานหมู่บ้าน
    ผมนายธรรมราช จันทร์ดอนผู้ใหญ่บ้าน พร้อมทีมงาน ผู้ช่วย สท. อสม. กทบ. ที่ปรึกษา กรรมการหมู่บ้าน ลูกบ้าน ต่างได้อยู่ต้อนรับ พร้อมทั้งได้บรรยายแผนการพัฒนาหมู่บ้าน
    นำเรียนปัญหาที่พบและแผนการแก้ไขและการป้องกันปัญหาที่จะเกิดซ้ำ
    การดำเนินการและกลยุทธการดำเนินการ ของโครงการธนาคารขยะตามแผนเทศบาล

    แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงและการอบรม
    และได้พาชมบ้านตัวอย่าง ตามแบบหน้าบ้านสวยงาม หลังบ้านสวน. นอกบ้านสะอาดสวยงาม
    ทุกอย่างเป็นที่เรียบร้อย
    ทั้งนี้หลายๆเรื่องเป็นยังเป็นวิสัยทัศน์และแผนดำเนินการ. ทีมงานเราจะได้ดำเนินการต่อไปให้เห็นผลประจักษ์สืบไป
    ขอขอบคุณ
    ทีมงานผู้ประเมินที่ให้โอกาสได้ชี้แจง
    ทีมงานหมู่บ้านเจริญมาศทุกๆท่านที่ร่วมด้วยช่วยกัน ทั้งลงแรง ทั้งให้คำปรึกษา
    คุณน้าไพบูลย์ คุณน้าแดง ให้ทีมงานได้เข้ารับชมบ้านเป็นบ้านตัวอย่าง
    ขอบคุณครับ
    12/09/68 13:35น. ที่บ้านเจริญมาศ หมู่ 9 ต.ลำปลายมาศ ได้ต้อนรับคณะประเมินการทำงานหมู่บ้าน ผมนายธรรมราช จันทร์ดอนผู้ใหญ่บ้าน พร้อมทีมงาน ผู้ช่วย สท. อสม. กทบ. ที่ปรึกษา กรรมการหมู่บ้าน ลูกบ้าน ต่างได้อยู่ต้อนรับ พร้อมทั้งได้บรรยายแผนการพัฒนาหมู่บ้าน นำเรียนปัญหาที่พบและแผนการแก้ไขและการป้องกันปัญหาที่จะเกิดซ้ำ การดำเนินการและกลยุทธการดำเนินการ ของโครงการธนาคารขยะตามแผนเทศบาล แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงและการอบรม และได้พาชมบ้านตัวอย่าง ตามแบบหน้าบ้านสวยงาม หลังบ้านสวน. นอกบ้านสะอาดสวยงาม ทุกอย่างเป็นที่เรียบร้อย ทั้งนี้หลายๆเรื่องเป็นยังเป็นวิสัยทัศน์และแผนดำเนินการ. ทีมงานเราจะได้ดำเนินการต่อไปให้เห็นผลประจักษ์สืบไป ขอขอบคุณ ทีมงานผู้ประเมินที่ให้โอกาสได้ชี้แจง ทีมงานหมู่บ้านเจริญมาศทุกๆท่านที่ร่วมด้วยช่วยกัน ทั้งลงแรง ทั้งให้คำปรึกษา คุณน้าไพบูลย์ คุณน้าแดง ให้ทีมงานได้เข้ารับชมบ้านเป็นบ้านตัวอย่าง ขอบคุณครับ 💖
    0 Comments 0 Shares 452 Views 0 Reviews
  • ภาพที่งดงามที่สุดในใจคนไทยเช้านี้
    คือธงชาติไทยที่โบกสะบัดอย่างสง่างาม เหนือผืนแผ่นดิน 5 จุดปะทะชายแดน
    ภูมะเขือ
    ช่องอานม้า
    ปราสาทตาเมือนธม
    ปราสาทตาควาย
    แนวเขตแดนช่องบก
    ทุกผืนดินคือหัวใจของแผ่นดินไทย
    ทุกธงที่ปัก คือสัญลักษณ์แห่งอธิปไตยที่ไม่มีวันล่าถอย
    ขอบคุณทหารกล้าทุกนาย
    ที่ยืนหยัดอยู่แนวหน้าโดยไม่หวั่นแม้ชีวิต
    วันนี้...คนไทยทั้งแผ่นดินจะจดจำไม่มีวันลืม
    แผ่นดินนี้ เป็นของไทย และจะเป็นของไทยตลอดไป
    บทความ : วิชาชีวิต
    🇹🇭 ภาพที่งดงามที่สุดในใจคนไทยเช้านี้ คือธงชาติไทยที่โบกสะบัดอย่างสง่างาม เหนือผืนแผ่นดิน 5 จุดปะทะชายแดน ▪️ภูมะเขือ ▪️ช่องอานม้า ▪️ปราสาทตาเมือนธม ▪️ปราสาทตาควาย ▪️แนวเขตแดนช่องบก ทุกผืนดินคือหัวใจของแผ่นดินไทย ทุกธงที่ปัก คือสัญลักษณ์แห่งอธิปไตยที่ไม่มีวันล่าถอย ขอบคุณทหารกล้าทุกนาย ที่ยืนหยัดอยู่แนวหน้าโดยไม่หวั่นแม้ชีวิต วันนี้...คนไทยทั้งแผ่นดินจะจดจำไม่มีวันลืม 🇹🇭 แผ่นดินนี้ เป็นของไทย และจะเป็นของไทยตลอดไป บทความ : วิชาชีวิต
    0 Comments 0 Shares 2K Views 0 Reviews
  • ปธ. #สีจิ้นผิงว่าไง เขมรกลายเป็น สะเลนสะกี้แล้ว เขมรลงนามกับอเมริกาด้านการป้องกันประเทศ หลังจากข้อตกลงหยุดยิงทำงาน
    คราวนี้คงรู้แล้วนะว่าทำไมเขมรละเมิดข้อตกลงหยุดยิง
    เขมรจะโละของเก่า หลังจากนี้เขมรจะครอบครองอาวุธอเมริกัน และอเมริกาจะไม่ขายอาวุธให้กับไทย
    อเมริกาเดินแผนให้ติด "กับดักหนี้" เพื่อครอบครอง
    อนาคต กองทัพไทยหนักแน่ ถ้าเขมรมันครอบครองอาวุธอเมริกา
    ปธ. #สีจิ้นผิงว่าไง เขมรกลายเป็น สะเลนสะกี้แล้ว เขมรลงนามกับอเมริกาด้านการป้องกันประเทศ หลังจากข้อตกลงหยุดยิงทำงาน คราวนี้คงรู้แล้วนะว่าทำไมเขมรละเมิดข้อตกลงหยุดยิง เขมรจะโละของเก่า หลังจากนี้เขมรจะครอบครองอาวุธอเมริกัน และอเมริกาจะไม่ขายอาวุธให้กับไทย อเมริกาเดินแผนให้ติด "กับดักหนี้" เพื่อครอบครอง อนาคต กองทัพไทยหนักแน่ ถ้าเขมรมันครอบครองอาวุธอเมริกา
    0 Comments 0 Shares 1K Views 0 Reviews
  • ย้อนตำนาน 50 ปี เขมรแดงบุกยึดพนมเปญ จุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกัมพูชา ... #แผ่นดินต้องคำสาป
    เมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๑๘ เมื่อกองกำลังเขมรแดง (Khmer Rouge) สามารถเข้าบุกยึดเมืองหลวงของประเทศ และควบคุมการปกครองของนายพลลอน นอล (Lon Nol) ซึ่งเป็นเผด็จการทหาร โดยมีรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเป็นผู้สนับสนุนได้สำเร็จ ท่ามกลางเสียงโห่ร้อง ดีใจของประชาชนที่ออกมาต้อนรับขับสู้ตามริมทาง มอบดอกไม้ต่างกำลังใจให้ผู้พิชิตเหล่านั้น โดยหารู้ไม่ว่า ในอีกไม่กี่เพลา ชีวิตของพวกเขากำลังเดินทางไปสู่เงื้อมมือของพญามัจจุราช
    เขมรแดง ซึ่งเป็นกองกำลังที่มีหัวขบวนหลักในการขับเคลื่อนโดยอดีตกลุ่มนักศึกษา "ปัญญาชนปารีส" อย่างพล พต (Pol Pot) เอียง ซารี เขียว สัมพัน ซอน เซน ฯลฯ ได้ยืนหยัดและยึดมั่นในอุดมการณ์ลัทธิซ้าย (คอมมิวนิสต์) อย่างสุดโต่งในการปฏิวัติกัมพูชา พวกเขามีความเชื่อว่า สังคมจะบังเกิดความจำเริญได้ ต้องมีความยุติธรรม ซึ่งจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าไม่มีความเท่าเทียม ความเท่าเทียมที่ว่านี้ รวมไปถึงความเท่าเทียมในความเป็นอยู่ ความเท่าเทียมทางรายได้ ความเท่าเทียมทางการศึกษา เป็นต้นว่า ทุกคนต้องทำงาน มีอาชีพเหมือนกัน คือ ใช้แรงงาน เป็น labour ตามทุ่งนาต่างๆ เพื่อป้อนผลผลิตเข้าสู่ "องค์การ (Angkar) — ชื่อเรียกส่วนกลางของพรรคคอมมิวนิสต์กัมพูชา" อยู่แบบเดียวกัน อาศัยร่วมกันในค่ายที่เรียกว่า "คอมมูน (Commune)" ทั้งนี้ ยังไม่นับไปถึงความเท่าเทียมในเรื่องส่วนบุคคลอย่าง การแต่งกายที่ต้องเหมือนกัน คือ สวมชุดสีดำ โพกผ้าขาวม้า ห้ามมีทรัพย์สินส่วนตัว แม้แต่สบู่ แปรงสีฟัน ข้าวของจำเป็นในการอุปโภคบริโภค องค์การก็จะเป็นคนจัดให้ ไม่วายกระทั่ง "เลือกคู่ครอง" ให้ โดยอ้าง "เหตุผลของรัฐ (raison d'état)"
    ในกรุงพนมเปญ เขมรแดงเกณฑ์ผู้คนชาวกรุงนับล้านอพยพออกจากเมือง โดยโกหกว่า กองทัพสหรัฐฯ เตรียมการทิ้งระเบิด ชาวกรุงเหล่านั้น เป็นชนชั้นกลาง ปัญญาชน เศรษฐี ซึ่งถือเป็น "ชนชั้นนำ (elite)" ที่เขมรแดงตราหน้าว่าเป็น "ศัตรูของรัฐ" ในเวลาต่อมา ถูกบังคับให้ต้องเดินเป็นระยะทางหลายกิโล กระจายกันไปตามภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ ตามแต่คำสั่งขององค์การ พวกเขาถูกนำตัวไปที่ค่าย (Commune) ที่ตั้งอยู่ตามทุ่งนาโล่งๆ หลายสิบแห่ง ที่ขนาดใหญ่และมีความสำคัญ เช่น ค่ายเสียมเรียบ พระตะบอง กันดาล เป็นต้น
    ตลอดระยะเวลาเกือบ ๔ ปีที่เขมรแดงขึ้นปกครองประเทศ กรุงพนมเปญกลายเป็นเมืองร้าง ไฟฟ้า ประปาไม่มีใช้ ยกเลิกโรงเรียน ธนาคาร โรงพยาบาล สาธารณูปโภคทุกอย่างถูกทำลาย เน้นการโดดเดี่ยวตัวเองเพื่อสร้างเศรษฐกิจแบบยังชีพตามอุดมการณ์พรรคคอมมิวนิสต์ คนทุกคนมีอาชีพเป็นแรงงาน ต้องทำงาน "เพื่อส่วนรวม" โดยไม่คิดถึงตัวเอง ๑๒ ชั่วโมง/วัน ตามทุ่งนา และจะได้รับอาหารจากองค์การเป็น "ข้าวเปล่าต้มสุก" ๑ กระป๋อง วันละ ๑ มื้อ ที่ถือได้ว่า "ดีแล้ว" เมื่อเทียบกับในคุก S-21 (ตวลสเลง) ที่ใช้คุมขัง "ศัตรูของรัฐ" ซึ่งได้รับอาหารเพียงข้าวต้ม ๓ ช้อน/วัน
    ด้วยการกดขี่ ใช้แรงงานอย่างไร้มนุษยธรรม ประกอบกับภาวะอาหารขาดแคลน อดอยาก มีผู้คนต้องล้มตายจากการขาดสารอาหาร การเจ็บป่วยที่ไม่มีแม้แต่ยารักษา เพราะแพทย์ถูกฆ่าตายจนหมดสิ้น ในฐานะ "ปัญญาชน" ซึ่งเป็นศัตรูของรัฐ คนป่วยต้องพึ่งพาสมุนไพร ใบไม้ในป่าพอประทัง และยังต้องทำงานเฉกเช่นเดียวกับคนปกติ การอู้งานอาจเป็นสาเหตุหนึ่งของข้อหา "ทรยศต่อองค์การ" ซึ่งแน่นอนว่าบทลงโทษของมันคือ "ความตาย"
    "ความตาย" กลายเป็น "มรณานุสสติ" ที่คนเขมรหวาดสะพรึงอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก ปัญญาชน คนต่างชาติ แม้แต่ "คนใส่แว่น" จะถูกฆ่าอย่างเหี้ยมโหด บ้างก็ถูกส่งไปทรมานในคุกพิเศษ บ้างก็ถูกฆ่ารวมกับ "พวกอู้งาน" กลางทุ่งนา จึงเป็นที่มาของคำเรียกว่า "ทุ่งสังหาร (killing field)"
    ท้ายที่สุด ภายใต้การนำของอดีตสมุนเขมรแดง ซึ่งรวมไปถึงนายกรัฐมนตรีกัมพูชาคนปัจจุบันอย่าง "ฮุน เซ็น" ได้ร่วมมือกับกองทัพเวียดนาม ซึ่งเป็นคอมมิวนิสต์คนละสายกับเขมรแดง (เวียดนามได้รับการสนับสนุนจากสหภาพโซเวียต ส่วนเขมรแดงได้รับการสนับสนุนจากจีน) เข้าบุกโจมตีกองทัพเขมรแดง เข้าปลดแอกประชาชนกัมพูชา จนได้รับชัยชนะ ควบคุมพนมเปญ และเปลี่ยนแปลงการปกครองได้ในปี ๒๕๒๒ ก่อนที่ความสูญเสียจะทวีคูณขึ้นเกิน ๓ ล้านคน หรือประมาณ ๑ ใน ๓ ของประชากรเขมรทั้งประเทศ
    ขอบพระคุณบทความจาก คุณ @Kanarop Chaiyasit
    ย้อนตำนาน 50 ปี เขมรแดงบุกยึดพนมเปญ จุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกัมพูชา ... #แผ่นดินต้องคำสาป เมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๑๘ เมื่อกองกำลังเขมรแดง (Khmer Rouge) สามารถเข้าบุกยึดเมืองหลวงของประเทศ และควบคุมการปกครองของนายพลลอน นอล (Lon Nol) ซึ่งเป็นเผด็จการทหาร โดยมีรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเป็นผู้สนับสนุนได้สำเร็จ ท่ามกลางเสียงโห่ร้อง ดีใจของประชาชนที่ออกมาต้อนรับขับสู้ตามริมทาง มอบดอกไม้ต่างกำลังใจให้ผู้พิชิตเหล่านั้น โดยหารู้ไม่ว่า ในอีกไม่กี่เพลา ชีวิตของพวกเขากำลังเดินทางไปสู่เงื้อมมือของพญามัจจุราช เขมรแดง ซึ่งเป็นกองกำลังที่มีหัวขบวนหลักในการขับเคลื่อนโดยอดีตกลุ่มนักศึกษา "ปัญญาชนปารีส" อย่างพล พต (Pol Pot) เอียง ซารี เขียว สัมพัน ซอน เซน ฯลฯ ได้ยืนหยัดและยึดมั่นในอุดมการณ์ลัทธิซ้าย (คอมมิวนิสต์) อย่างสุดโต่งในการปฏิวัติกัมพูชา พวกเขามีความเชื่อว่า สังคมจะบังเกิดความจำเริญได้ ต้องมีความยุติธรรม ซึ่งจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าไม่มีความเท่าเทียม ความเท่าเทียมที่ว่านี้ รวมไปถึงความเท่าเทียมในความเป็นอยู่ ความเท่าเทียมทางรายได้ ความเท่าเทียมทางการศึกษา เป็นต้นว่า ทุกคนต้องทำงาน มีอาชีพเหมือนกัน คือ ใช้แรงงาน เป็น labour ตามทุ่งนาต่างๆ เพื่อป้อนผลผลิตเข้าสู่ "องค์การ (Angkar) — ชื่อเรียกส่วนกลางของพรรคคอมมิวนิสต์กัมพูชา" อยู่แบบเดียวกัน อาศัยร่วมกันในค่ายที่เรียกว่า "คอมมูน (Commune)" ทั้งนี้ ยังไม่นับไปถึงความเท่าเทียมในเรื่องส่วนบุคคลอย่าง การแต่งกายที่ต้องเหมือนกัน คือ สวมชุดสีดำ โพกผ้าขาวม้า ห้ามมีทรัพย์สินส่วนตัว แม้แต่สบู่ แปรงสีฟัน ข้าวของจำเป็นในการอุปโภคบริโภค องค์การก็จะเป็นคนจัดให้ ไม่วายกระทั่ง "เลือกคู่ครอง" ให้ โดยอ้าง "เหตุผลของรัฐ (raison d'état)" ในกรุงพนมเปญ เขมรแดงเกณฑ์ผู้คนชาวกรุงนับล้านอพยพออกจากเมือง โดยโกหกว่า กองทัพสหรัฐฯ เตรียมการทิ้งระเบิด ชาวกรุงเหล่านั้น เป็นชนชั้นกลาง ปัญญาชน เศรษฐี ซึ่งถือเป็น "ชนชั้นนำ (elite)" ที่เขมรแดงตราหน้าว่าเป็น "ศัตรูของรัฐ" ในเวลาต่อมา ถูกบังคับให้ต้องเดินเป็นระยะทางหลายกิโล กระจายกันไปตามภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ ตามแต่คำสั่งขององค์การ พวกเขาถูกนำตัวไปที่ค่าย (Commune) ที่ตั้งอยู่ตามทุ่งนาโล่งๆ หลายสิบแห่ง ที่ขนาดใหญ่และมีความสำคัญ เช่น ค่ายเสียมเรียบ พระตะบอง กันดาล เป็นต้น ตลอดระยะเวลาเกือบ ๔ ปีที่เขมรแดงขึ้นปกครองประเทศ กรุงพนมเปญกลายเป็นเมืองร้าง ไฟฟ้า ประปาไม่มีใช้ ยกเลิกโรงเรียน ธนาคาร โรงพยาบาล สาธารณูปโภคทุกอย่างถูกทำลาย เน้นการโดดเดี่ยวตัวเองเพื่อสร้างเศรษฐกิจแบบยังชีพตามอุดมการณ์พรรคคอมมิวนิสต์ คนทุกคนมีอาชีพเป็นแรงงาน ต้องทำงาน "เพื่อส่วนรวม" โดยไม่คิดถึงตัวเอง ๑๒ ชั่วโมง/วัน ตามทุ่งนา และจะได้รับอาหารจากองค์การเป็น "ข้าวเปล่าต้มสุก" ๑ กระป๋อง วันละ ๑ มื้อ ที่ถือได้ว่า "ดีแล้ว" เมื่อเทียบกับในคุก S-21 (ตวลสเลง) ที่ใช้คุมขัง "ศัตรูของรัฐ" ซึ่งได้รับอาหารเพียงข้าวต้ม ๓ ช้อน/วัน ด้วยการกดขี่ ใช้แรงงานอย่างไร้มนุษยธรรม ประกอบกับภาวะอาหารขาดแคลน อดอยาก มีผู้คนต้องล้มตายจากการขาดสารอาหาร การเจ็บป่วยที่ไม่มีแม้แต่ยารักษา เพราะแพทย์ถูกฆ่าตายจนหมดสิ้น ในฐานะ "ปัญญาชน" ซึ่งเป็นศัตรูของรัฐ คนป่วยต้องพึ่งพาสมุนไพร ใบไม้ในป่าพอประทัง และยังต้องทำงานเฉกเช่นเดียวกับคนปกติ การอู้งานอาจเป็นสาเหตุหนึ่งของข้อหา "ทรยศต่อองค์การ" ซึ่งแน่นอนว่าบทลงโทษของมันคือ "ความตาย" "ความตาย" กลายเป็น "มรณานุสสติ" ที่คนเขมรหวาดสะพรึงอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก ปัญญาชน คนต่างชาติ แม้แต่ "คนใส่แว่น" จะถูกฆ่าอย่างเหี้ยมโหด บ้างก็ถูกส่งไปทรมานในคุกพิเศษ บ้างก็ถูกฆ่ารวมกับ "พวกอู้งาน" กลางทุ่งนา จึงเป็นที่มาของคำเรียกว่า "ทุ่งสังหาร (killing field)" ท้ายที่สุด ภายใต้การนำของอดีตสมุนเขมรแดง ซึ่งรวมไปถึงนายกรัฐมนตรีกัมพูชาคนปัจจุบันอย่าง "ฮุน เซ็น" ได้ร่วมมือกับกองทัพเวียดนาม ซึ่งเป็นคอมมิวนิสต์คนละสายกับเขมรแดง (เวียดนามได้รับการสนับสนุนจากสหภาพโซเวียต ส่วนเขมรแดงได้รับการสนับสนุนจากจีน) เข้าบุกโจมตีกองทัพเขมรแดง เข้าปลดแอกประชาชนกัมพูชา จนได้รับชัยชนะ ควบคุมพนมเปญ และเปลี่ยนแปลงการปกครองได้ในปี ๒๕๒๒ ก่อนที่ความสูญเสียจะทวีคูณขึ้นเกิน ๓ ล้านคน หรือประมาณ ๑ ใน ๓ ของประชากรเขมรทั้งประเทศ ขอบพระคุณบทความจาก คุณ @Kanarop Chaiyasit
    0 Comments 0 Shares 2K Views 0 Reviews
  • ทบ.แจ้งยอดกำลังพลเสียชีวิตแล้ว 6 นาย
    25 กรกฎาคม 2568 เมื่อเวลา 20.45 น. ทางทีมโฆษกกองทัพบกรายงานว่า กองทัพบกขอรายงานข้อมูลการสูญเสียกำลังพลจากการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันประเทศ ตลอดช่วงการปะทะในพื้นที่ชายแดน ระหว่างวันที่ 24–25 กรกฎาคม 2568 กองทัพบกขอรายงานการสูญเสียกำลังพลรวมทั้งสิ้น 6 นาย แบ่งเป็น
    - นายสิบ จำนวน 5 นาย
    - พลทหาร จำนวน 1 นาย
    .
    โดยสรุปสถานการณ์ผู้ได้รับผลกระทบจากการปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา ณ วันที่ 25 กรกฎาคม 2568 เวลา 20.00 น. มียอดผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสะสมรวมดังนี้
    1.พลเรือน
    เสียชีวิต: 13 ราย
    บาดเจ็บสาหัส: 10 ราย
    บาดเจ็บปานกลาง: 10 ราย
    บาดเจ็บเล็กน้อย: 13 ราย
    รวมทั้งสิ้น: 46 ราย
    2. ทหาร
    เสียชีวิต: 6 นาย
    บาดเจ็บสาหัส: 7 นาย
    บาดเจ็บปานกลาง: 5 นาย
    บาดเจ็บเล็กน้อย: 3 นาย
    รวมทั้งสิ้น: 21 นาย
    .
    รวมผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 19 ราย และผู้บาดเจ็บรวม 48 ราย
    .
    กองทัพไทยขอแสดงความไว้อาลัยและสดุดีวีรกรรมของทหารกล้าผู้เสียสละชีวิตเพื่อปกป้องผืนแผ่นดิน และอธิปไตยของชาติอย่างหาญกล้า
    .
    #Saveชีวิตคนไทย #ไทยเขมร #ชายแดน #กัมพูชา #ไทย #ชายแดนไทยกัมพูชา #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยรัฐทีวี32
    ทบ.แจ้งยอดกำลังพลเสียชีวิตแล้ว 6 นาย 25 กรกฎาคม 2568 เมื่อเวลา 20.45 น. ทางทีมโฆษกกองทัพบกรายงานว่า กองทัพบกขอรายงานข้อมูลการสูญเสียกำลังพลจากการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันประเทศ ตลอดช่วงการปะทะในพื้นที่ชายแดน ระหว่างวันที่ 24–25 กรกฎาคม 2568 กองทัพบกขอรายงานการสูญเสียกำลังพลรวมทั้งสิ้น 6 นาย แบ่งเป็น - นายสิบ จำนวน 5 นาย - พลทหาร จำนวน 1 นาย . โดยสรุปสถานการณ์ผู้ได้รับผลกระทบจากการปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา ณ วันที่ 25 กรกฎาคม 2568 เวลา 20.00 น. มียอดผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสะสมรวมดังนี้ 1.พลเรือน เสียชีวิต: 13 ราย บาดเจ็บสาหัส: 10 ราย บาดเจ็บปานกลาง: 10 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย: 13 ราย รวมทั้งสิ้น: 46 ราย 2. ทหาร เสียชีวิต: 6 นาย บาดเจ็บสาหัส: 7 นาย บาดเจ็บปานกลาง: 5 นาย บาดเจ็บเล็กน้อย: 3 นาย รวมทั้งสิ้น: 21 นาย . รวมผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 19 ราย และผู้บาดเจ็บรวม 48 ราย . กองทัพไทยขอแสดงความไว้อาลัยและสดุดีวีรกรรมของทหารกล้าผู้เสียสละชีวิตเพื่อปกป้องผืนแผ่นดิน และอธิปไตยของชาติอย่างหาญกล้า . #Saveชีวิตคนไทย #ไทยเขมร #ชายแดน #กัมพูชา #ไทย #ชายแดนไทยกัมพูชา #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยรัฐทีวี32
    0 Comments 0 Shares 3K Views 0 Reviews
  • สิ่งที่ฮุนเซนต้องการจริงๆ ไม่ใช่แค่การสู้รบชายแดน แต่คือการกำจัดทหารที่อาจไม่ภักดีต่ออำนาจของตระกูลฮุน?
    ตอนนี้ฮุนเซนลดงบประมาณของกองทัพลงอย่างมีนัยยะ แล้วโยกเงินไปสร้าง “กองกำลังพิเศษ” ที่มีเฉพาะคนใกล้ชิดเท่านั้นที่ได้ใช้อาวุธทันสมัย
    ทหารกัมพูชาธรรมดาไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้สัมผัสอาวุธเหล่านั้น แต่กลับถูกส่งไปตายชายแดน ด้วยคำว่ารักชาติบังหน้า
    ล่าสุด ฮุน เซนกำลังจะส่ง “กองทัพเรือ” มาปะทะ ทั้งๆ ที่ไม่มีข้อพิพาททางทะเลกับไทย เรือรบก็ยังไม่มีพร้อม แต่นายพลกับกำลังพลกลับถูกสั่งให้ออกหน้าไปตาย
    นี่มันแปลกเกินไป และชัดเจนว่าไม่ใช่สงครามเพื่อประเทศชาติ แต่คือสงครามเพื่อรักษาอำนาจของตระกูล
    ไม่มีผู้นำที่ไหนในโลกจะบ้าเลือดถึงขนาดส่งลูกน้องตัวเองไปตาย ทั้งๆ ที่รู้ว่าแพ้แน่
    ประเทศเล็กอย่างกัมพูชา ประชาคมโลกอาจไม่ใส่ใจ แต่ความจริงคือ… ทหารกัมพูชากำลังถูกใช้เป็นเหยื่อในเกมอำนาจของคนๆ เดียว
    What Hun Sen truly wants isn’t just a border war — it’s to eliminate soldiers who may no longer be loyal to his dynasty.
    He has quietly slashed the national military budget and redirected funds to build a “special guard force” equipped with state-of-the-art weapons, available only to those loyal to him personally.
    Ordinary Cambodian soldiers never even get to touch this kind of equipment. Instead, they’re sent to die on the frontlines — all in the name of nationalism.
    And now, Hun Sen is preparing to send the navy to the battlefield — even though there is no maritime dispute with Thailand. There aren’t even proper warships ready, yet generals and sailors are being deployed to die.
    It’s not just strange. It’s strategic.
    This is not a war for the country. It’s a purge — a calculated operation to remove anyone in uniform who might challenge the Hun dynasty’s grip on power.
    No rational leader would send his own men to die knowing they will lose — unless death is the plan.
    The world may ignore a small country like Cambodia, but the truth is this:
    Cambodian soldiers are being sacrificed — not for the nation — but for one man’s throne.
    អ្វីដែលហ៊ុន សែនចង់បានមែនមិនមែនសង្គ្រាមព្រំដែនទេ — តែគឺការបញ្ជប់ទាហានដែលអាចនឹងមិនស្មោះត្រង់នឹងរាជវង្សរបស់គាត់។
    គាត់បានកាត់បន្ថយថវិកាថ្នាក់យោធាជាសម្ងាត់ ហើយបញ្ចូនថវិកាទៅកែលំអកងពិសេសសម្រាប់ការការពារខ្លួនឯង ដែលមានអាវុធស្ទើរតែទំនើបបំផុត ហើយមានតែអ្នកដែលស្មោះត្រង់តែប៉ុណ្ណោះទទួលបាន។
    ទាហានជាធម្មតាមិនបានស្ទាប់ដល់អាវុធទំនើបទេ។ តែនៅទីបំផុត ត្រូវបញ្ជូនទៅស្លាប់នៅតំបន់ព្រំដែន ដោយប្រើពាក្យថា “ស្មោះនឹងជាតិ” ជាអាវការពារ។
    ឥឡូវនេះ ហ៊ុន សែនកំពុងរៀបចំផ្ញើកងទ័ពជើងទឹកចូលសង្រ្គាម ទោះបីជាមិនមានវិវាទសមុទ្រជាមួយថៃផងដែរ។ កប៉ាល់ប្រយុទ្ធក៏មិនទាន់មានត្រៀមខ្លួនរួចផង ស៉ាងតែឧត្តមសេនីយ៍ និងទាហានត្រូវបានផ្ញើឲ្យទៅស្លាប់។
    នេះមិនមែនគ្រាន់តែចម្លែកទេ — តែជាយុទ្ធសាស្រ្ត។
    នេះមិនមែនជាសង្គ្រាមដើម្បីប្រទេសនោះទេ។ តែជាការបំផ្លាញមនុស្សក្នុងយុទ្ធភោគដែលអាចជាបញ្ហាដល់អំណាចរបស់គាត់។
    មិនមានមេដឹកនាំណាដែលស្មារតីទៀសទេនឹងបញ្ជូនកងទ័ពឯងទៅស្លាប់ ប្រសិនបើគាត់ដឹងថាពួកគេនឹងចាញ់ — លើកលែងតែ “ការស្លាប់” ជាគម្រោងដើម។
    ពិភពលោកអាចមិនខ្វល់អំពីប្រទេសតូចៗដូចជា កម្ពុជា។ តែការពិតគឺ៖
    ទាហានកម្ពុជាកំពុងត្រូវបានប្រើជាសាច់ញាតិ នៅក្នុងហ្គេមអំណាចរបស់មនុស្សតែម្ដង។
    #แฉฮุนเซน
    #ทหารเขมรถูกหลอก
    #สงครามเพื่ออำนาจ
    #ฮุนเซนส่งคนมาตาย
    #กองทัพส่วนตัวฮุนเซน
    #ทหารธรรมดาคือเหยื่อ
    #ล้างบางกองทัพ
    #เขมรไม่ใช่ของตระกูลเดียว
    #หยุดฮุนราชวงศ์
    #กัมพูชายิงก่อน
    #เกมการเมืองใช้เลือดคน
    #ปกป้องแผ่นดินไทย
    #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    #กัมพูชายิงก่อน
    #CambodiaOpenedFire
    #hunsenwarcriminal
    #ฮุนเซนอาชญากรสงคราม
    #ឧក្រិដ្ឋជនហ៊ុនសែន
    #洪森戰爭罪犯
    CR CSI LA
    สิ่งที่ฮุนเซนต้องการจริงๆ ไม่ใช่แค่การสู้รบชายแดน แต่คือการกำจัดทหารที่อาจไม่ภักดีต่ออำนาจของตระกูลฮุน? ตอนนี้ฮุนเซนลดงบประมาณของกองทัพลงอย่างมีนัยยะ แล้วโยกเงินไปสร้าง “กองกำลังพิเศษ” ที่มีเฉพาะคนใกล้ชิดเท่านั้นที่ได้ใช้อาวุธทันสมัย ทหารกัมพูชาธรรมดาไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้สัมผัสอาวุธเหล่านั้น แต่กลับถูกส่งไปตายชายแดน ด้วยคำว่ารักชาติบังหน้า ล่าสุด ฮุน เซนกำลังจะส่ง “กองทัพเรือ” มาปะทะ ทั้งๆ ที่ไม่มีข้อพิพาททางทะเลกับไทย เรือรบก็ยังไม่มีพร้อม แต่นายพลกับกำลังพลกลับถูกสั่งให้ออกหน้าไปตาย นี่มันแปลกเกินไป และชัดเจนว่าไม่ใช่สงครามเพื่อประเทศชาติ แต่คือสงครามเพื่อรักษาอำนาจของตระกูล ไม่มีผู้นำที่ไหนในโลกจะบ้าเลือดถึงขนาดส่งลูกน้องตัวเองไปตาย ทั้งๆ ที่รู้ว่าแพ้แน่ ประเทศเล็กอย่างกัมพูชา ประชาคมโลกอาจไม่ใส่ใจ แต่ความจริงคือ… ทหารกัมพูชากำลังถูกใช้เป็นเหยื่อในเกมอำนาจของคนๆ เดียว What Hun Sen truly wants isn’t just a border war — it’s to eliminate soldiers who may no longer be loyal to his dynasty. He has quietly slashed the national military budget and redirected funds to build a “special guard force” equipped with state-of-the-art weapons, available only to those loyal to him personally. Ordinary Cambodian soldiers never even get to touch this kind of equipment. Instead, they’re sent to die on the frontlines — all in the name of nationalism. And now, Hun Sen is preparing to send the navy to the battlefield — even though there is no maritime dispute with Thailand. There aren’t even proper warships ready, yet generals and sailors are being deployed to die. It’s not just strange. It’s strategic. This is not a war for the country. It’s a purge — a calculated operation to remove anyone in uniform who might challenge the Hun dynasty’s grip on power. No rational leader would send his own men to die knowing they will lose — unless death is the plan. The world may ignore a small country like Cambodia, but the truth is this: Cambodian soldiers are being sacrificed — not for the nation — but for one man’s throne. អ្វីដែលហ៊ុន សែនចង់បានមែនមិនមែនសង្គ្រាមព្រំដែនទេ — តែគឺការបញ្ជប់ទាហានដែលអាចនឹងមិនស្មោះត្រង់នឹងរាជវង្សរបស់គាត់។ គាត់បានកាត់បន្ថយថវិកាថ្នាក់យោធាជាសម្ងាត់ ហើយបញ្ចូនថវិកាទៅកែលំអកងពិសេសសម្រាប់ការការពារខ្លួនឯង ដែលមានអាវុធស្ទើរតែទំនើបបំផុត ហើយមានតែអ្នកដែលស្មោះត្រង់តែប៉ុណ្ណោះទទួលបាន។ ទាហានជាធម្មតាមិនបានស្ទាប់ដល់អាវុធទំនើបទេ។ តែនៅទីបំផុត ត្រូវបញ្ជូនទៅស្លាប់នៅតំបន់ព្រំដែន ដោយប្រើពាក្យថា “ស្មោះនឹងជាតិ” ជាអាវការពារ។ ឥឡូវនេះ ហ៊ុន សែនកំពុងរៀបចំផ្ញើកងទ័ពជើងទឹកចូលសង្រ្គាម ទោះបីជាមិនមានវិវាទសមុទ្រជាមួយថៃផងដែរ។ កប៉ាល់ប្រយុទ្ធក៏មិនទាន់មានត្រៀមខ្លួនរួចផង ស៉ាងតែឧត្តមសេនីយ៍ និងទាហានត្រូវបានផ្ញើឲ្យទៅស្លាប់។ នេះមិនមែនគ្រាន់តែចម្លែកទេ — តែជាយុទ្ធសាស្រ្ត។ នេះមិនមែនជាសង្គ្រាមដើម្បីប្រទេសនោះទេ។ តែជាការបំផ្លាញមនុស្សក្នុងយុទ្ធភោគដែលអាចជាបញ្ហាដល់អំណាចរបស់គាត់។ មិនមានមេដឹកនាំណាដែលស្មារតីទៀសទេនឹងបញ្ជូនកងទ័ពឯងទៅស្លាប់ ប្រសិនបើគាត់ដឹងថាពួកគេនឹងចាញ់ — លើកលែងតែ “ការស្លាប់” ជាគម្រោងដើម។ ពិភពលោកអាចមិនខ្វល់អំពីប្រទេសតូចៗដូចជា កម្ពុជា។ តែការពិតគឺ៖ ទាហានកម្ពុជាកំពុងត្រូវបានប្រើជាសាច់ញាតិ នៅក្នុងហ្គេមអំណាចរបស់មនុស្សតែម្ដង។ #แฉฮุนเซน #ทหารเขมรถูกหลอก #สงครามเพื่ออำนาจ #ฮุนเซนส่งคนมาตาย #กองทัพส่วนตัวฮุนเซน #ทหารธรรมดาคือเหยื่อ #ล้างบางกองทัพ #เขมรไม่ใช่ของตระกูลเดียว #หยุดฮุนราชวงศ์ #กัมพูชายิงก่อน #เกมการเมืองใช้เลือดคน #ปกป้องแผ่นดินไทย #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #hunsenwarcriminal #ฮุนเซนอาชญากรสงคราม #ឧក្រិដ្ឋជនហ៊ុនសែន #洪森戰爭罪犯 CR CSI LA
    0 Comments 0 Shares 4K Views 0 Reviews
  • ((( นักวิเคราะห์ข้อมูลดาวเทียมออสเตรเลีย พบหลักฐาน ความขัดแย้งเริ่มจากฝั่งกัมพูชา - Australian satellite imagery analyst finds evidence that the conflict was initiated from the Cambodian side. (English below) )))
    คุณนาธาน รูเซอร์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการวิเคราะห์ข้อมูลดาวเทียม ของ Australian Strategic Policy Institute หรือ ASPI บอกว่าเขานั่งไล่ดูข้อมูลแล้ว สถานการณ์ที่ถูกยกระดับส่วนใหญ่น่าจะเริ่มต้นจากฝั่งกัมพูชา โดยทหารของกัมพูชาได้เสริมกำลังในหลายพื้นที่ก่อนการปะทะเมื่อวันที่ 28 พ.ค. (ไม่ใช่รอบนี้นะครับ หมายถึง รอบเดือน พ.ค. ที่เป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งรอบนี้) และกัมพูชายังเร่งส่งทรัพยากรทางยุทธศาสตร์เพิ่มเติมทันทีหลังเหตุการณ์
    โดยเขาแนบแผนที่แสดงความหนาแน่นของกิจกรรมทางทหารของกัมพูชาก่อนวันที่ 24 ก.ค. มาด้วย
    นักวิเคราะห์คนนี้ทำข่าวพื้นที่สงครามมาหลายจุด ทั้งยูเครน พม่า ค่อนข้างแม่นยำ ที่ผ่านมามีสื่อใหญ่นำข้อมูลของเขาไปใช้บ่อยครั้ง
    ข้อมูลดาวเทียมนี้เป็นของที่บิดผันไม่ได้ ขอให้ทุกท่านช่วยกันแชร์ออกไป เพื่อยืนยันแก่ชาวโลกว่าเกิดอะไรขึ้น
    ด้านล่างผม (เพจเดอะไวลด์โครนิเคิลส์) แปลอังกฤษไว้ให้นะครับ
    Mr. Nathan Ruser, a satellite imagery analyst at the Australian Strategic Policy Institute (ASPI), stated that after closely examining the data, most of the escalation appears to have originated from the Cambodian side. Cambodian troops reinforced several areas prior to the May 28 clashes (refer to the earlier event which marked the beginning of this current conflict). Cambodia also rapidly deployed additional strategic assets immediately following the incident.
    He included a heatmap showing the concentration of Cambodian military activity prior to July 24.
    Mr. Ruser has covered conflict zones in multiple regions—including Ukraine and Myanmar—and has built a reputation for accuracy. His findings are frequently cited by major international media outlets.
    Satellite data of this nature is immutable. We urge everyone to share this widely, so the world can clearly see what has really taken place.
    Cr. The Wild Chronicles - ประวัติศาสตร์ ข่าวต่างประเทศ ท่องเที่ยวที่แปลก ; Drama-addict
    #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire กองทัพอากาศพร้อมยืนหยัดเคียงข้างเสมอ กองทัพอากาศไทย Royal Thai Air Force
    ((( นักวิเคราะห์ข้อมูลดาวเทียมออสเตรเลีย พบหลักฐาน ความขัดแย้งเริ่มจากฝั่งกัมพูชา - Australian satellite imagery analyst finds evidence that the conflict was initiated from the Cambodian side. (English below) ))) คุณนาธาน รูเซอร์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการวิเคราะห์ข้อมูลดาวเทียม ของ Australian Strategic Policy Institute หรือ ASPI บอกว่าเขานั่งไล่ดูข้อมูลแล้ว สถานการณ์ที่ถูกยกระดับส่วนใหญ่น่าจะเริ่มต้นจากฝั่งกัมพูชา โดยทหารของกัมพูชาได้เสริมกำลังในหลายพื้นที่ก่อนการปะทะเมื่อวันที่ 28 พ.ค. (ไม่ใช่รอบนี้นะครับ หมายถึง รอบเดือน พ.ค. ที่เป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งรอบนี้) และกัมพูชายังเร่งส่งทรัพยากรทางยุทธศาสตร์เพิ่มเติมทันทีหลังเหตุการณ์ โดยเขาแนบแผนที่แสดงความหนาแน่นของกิจกรรมทางทหารของกัมพูชาก่อนวันที่ 24 ก.ค. มาด้วย นักวิเคราะห์คนนี้ทำข่าวพื้นที่สงครามมาหลายจุด ทั้งยูเครน พม่า ค่อนข้างแม่นยำ ที่ผ่านมามีสื่อใหญ่นำข้อมูลของเขาไปใช้บ่อยครั้ง ข้อมูลดาวเทียมนี้เป็นของที่บิดผันไม่ได้ ขอให้ทุกท่านช่วยกันแชร์ออกไป เพื่อยืนยันแก่ชาวโลกว่าเกิดอะไรขึ้น ด้านล่างผม (เพจเดอะไวลด์โครนิเคิลส์) แปลอังกฤษไว้ให้นะครับ Mr. Nathan Ruser, a satellite imagery analyst at the Australian Strategic Policy Institute (ASPI), stated that after closely examining the data, most of the escalation appears to have originated from the Cambodian side. Cambodian troops reinforced several areas prior to the May 28 clashes (refer to the earlier event which marked the beginning of this current conflict). Cambodia also rapidly deployed additional strategic assets immediately following the incident. He included a heatmap showing the concentration of Cambodian military activity prior to July 24. Mr. Ruser has covered conflict zones in multiple regions—including Ukraine and Myanmar—and has built a reputation for accuracy. His findings are frequently cited by major international media outlets. Satellite data of this nature is immutable. We urge everyone to share this widely, so the world can clearly see what has really taken place. Cr. The Wild Chronicles - ประวัติศาสตร์ ข่าวต่างประเทศ ท่องเที่ยวที่แปลก ; Drama-addict #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire กองทัพอากาศพร้อมยืนหยัดเคียงข้างเสมอ กองทัพอากาศไทย Royal Thai Air Force
    0 Comments 0 Shares 2K Views 0 Reviews
More Results
fornote https://fornote.in.th