• ทหารไทย สุภาพบุรุษ!!
    คุมตัว 18 เชลยศึก ทหารเขมร
    จากเหตุปะทะในพื้นที่ ซำแต
    ยอมจำนน
    ดูแลอย่างดีจัด เสื้อผ้า อาหาร น้ำดื่ม รักษาพยาบาล
    ตามแบบปฏิบัติในทางทหารของสากล ยึดหลักมนุษยธรรมสากล
    พบ เสียชีวิต 2 ราย
    เตรียมส่งคืนกัมพูชา
    พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานผลการควบคุมตัวทหารกัมพูชา จำนวน 18 นาย สืบเนื่องจากเหตุการณ์ปะทะในพื้นที่ ซำแต อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ
    กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังที่ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธหนักและอาวุธวิถีโค้ง ยิงเข้ามาในเขตพื้นที่ของไทย ฝ่ายไทยจึงได้ใช้ หน่วยทหารม้าเฉพาะกิจเข้าทำการตอบโต้และกวาดล้างที่มั่นของฝ่ายกัมพูชา
    จากการปฏิบัติดังกล่าว พบมีทหารกัมพูชาจำนวนหนึ่ง ยอมจำนนโดยไม่มีท่าทีหรือลักษณะจะคุกคามฝ่ายไทย ทางหน่วย จึงดำเนินการปลดอาวุธและควบคุมตัวตามขั้นตอน โดยยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลอย่างเคร่งครัด มีจำนวน 18 นาย ชั้นยศ ร้อยตรี 1 นาย ,จ่าสิบโท 2 นาย ,สิบเอก 12 นาย ,สิบโท 2 นาย , สิบตรี 1 นาย และในจำนวนนั้นมีผู้บาดเจ็บ 1 นาย คือ สิบเอก มอม ริดที บาดเจ็บ ถูกกระสุนบริเวณสะโพกข้างขวา และ แขนซ้าย ซึ่งภายหลังฝ่ายไทยได้ส่งเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาล
    นอกจากนี้ ยังพบผู้เสียชีวิตอยู่ในพื้นที่จำนวน 2 นาย
    ขณะนี้ ทหารกัมพูชาทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุม ณ พื้นที่ปลอดภัยของกองทัพภาคที่ 2 ซึ่งได้จัดเตรียมการดูแลขั้นพื้นฐานไว้ให้ ทั้ง เสื้อผ้า อาหาร น้ำดื่ม และการรักษาพยาบาล ตามความจำเป็น ดูแลให้เป็นไปตามแบบปฏิบัติในทางทหารของสากล และยึดหลักมนุษยธรรมสากล จากนั้นจะดำเนินการตามกระบวนการที่เกี่ยวข้องต่อไป
    ในส่วนของผู้เสียชีวิต ฝ่ายไทยจะดำเนินการส่งคืนร่างของผู้เสียชีวิต ตามหลักปฏิบัติสากลในการปฏิบัติต่อศพในภาวะสงคราม อย่างสมเกียรติต่อไป
    กองทัพบกยังคงยึดมั่นในหลักสิทธิมนุษยชน หลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และพันธกรณีที่ไทยถือปฏิบัติภายใต้อนุสัญญาเจนีวาที่พึงกระทำต่อทหาร และ ศพของฝ่ายตรงข้ามอย่างเคร่งครัด
    CR.Wassana Nanuam
    ทหารไทย สุภาพบุรุษ!! คุมตัว 18 เชลยศึก ทหารเขมร จากเหตุปะทะในพื้นที่ ซำแต ยอมจำนน ดูแลอย่างดีจัด เสื้อผ้า อาหาร น้ำดื่ม รักษาพยาบาล ตามแบบปฏิบัติในทางทหารของสากล ยึดหลักมนุษยธรรมสากล พบ เสียชีวิต 2 ราย เตรียมส่งคืนกัมพูชา พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานผลการควบคุมตัวทหารกัมพูชา จำนวน 18 นาย สืบเนื่องจากเหตุการณ์ปะทะในพื้นที่ ซำแต อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังที่ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธหนักและอาวุธวิถีโค้ง ยิงเข้ามาในเขตพื้นที่ของไทย ฝ่ายไทยจึงได้ใช้ หน่วยทหารม้าเฉพาะกิจเข้าทำการตอบโต้และกวาดล้างที่มั่นของฝ่ายกัมพูชา จากการปฏิบัติดังกล่าว พบมีทหารกัมพูชาจำนวนหนึ่ง ยอมจำนนโดยไม่มีท่าทีหรือลักษณะจะคุกคามฝ่ายไทย ทางหน่วย จึงดำเนินการปลดอาวุธและควบคุมตัวตามขั้นตอน โดยยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลอย่างเคร่งครัด มีจำนวน 18 นาย ชั้นยศ ร้อยตรี 1 นาย ,จ่าสิบโท 2 นาย ,สิบเอก 12 นาย ,สิบโท 2 นาย , สิบตรี 1 นาย และในจำนวนนั้นมีผู้บาดเจ็บ 1 นาย คือ สิบเอก มอม ริดที บาดเจ็บ ถูกกระสุนบริเวณสะโพกข้างขวา และ แขนซ้าย ซึ่งภายหลังฝ่ายไทยได้ส่งเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาล นอกจากนี้ ยังพบผู้เสียชีวิตอยู่ในพื้นที่จำนวน 2 นาย ขณะนี้ ทหารกัมพูชาทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุม ณ พื้นที่ปลอดภัยของกองทัพภาคที่ 2 ซึ่งได้จัดเตรียมการดูแลขั้นพื้นฐานไว้ให้ ทั้ง เสื้อผ้า อาหาร น้ำดื่ม และการรักษาพยาบาล ตามความจำเป็น ดูแลให้เป็นไปตามแบบปฏิบัติในทางทหารของสากล และยึดหลักมนุษยธรรมสากล จากนั้นจะดำเนินการตามกระบวนการที่เกี่ยวข้องต่อไป ในส่วนของผู้เสียชีวิต ฝ่ายไทยจะดำเนินการส่งคืนร่างของผู้เสียชีวิต ตามหลักปฏิบัติสากลในการปฏิบัติต่อศพในภาวะสงคราม อย่างสมเกียรติต่อไป กองทัพบกยังคงยึดมั่นในหลักสิทธิมนุษยชน หลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และพันธกรณีที่ไทยถือปฏิบัติภายใต้อนุสัญญาเจนีวาที่พึงกระทำต่อทหาร และ ศพของฝ่ายตรงข้ามอย่างเคร่งครัด CR.Wassana Nanuam
    0 Comments 0 Shares 1K Views 0 Reviews
  • ปธ. #สีจิ้นผิงว่าไง เขมรกลายเป็น สะเลนสะกี้แล้ว เขมรลงนามกับอเมริกาด้านการป้องกันประเทศ หลังจากข้อตกลงหยุดยิงทำงาน
    คราวนี้คงรู้แล้วนะว่าทำไมเขมรละเมิดข้อตกลงหยุดยิง
    เขมรจะโละของเก่า หลังจากนี้เขมรจะครอบครองอาวุธอเมริกัน และอเมริกาจะไม่ขายอาวุธให้กับไทย
    อเมริกาเดินแผนให้ติด "กับดักหนี้" เพื่อครอบครอง
    อนาคต กองทัพไทยหนักแน่ ถ้าเขมรมันครอบครองอาวุธอเมริกา
    ปธ. #สีจิ้นผิงว่าไง เขมรกลายเป็น สะเลนสะกี้แล้ว เขมรลงนามกับอเมริกาด้านการป้องกันประเทศ หลังจากข้อตกลงหยุดยิงทำงาน คราวนี้คงรู้แล้วนะว่าทำไมเขมรละเมิดข้อตกลงหยุดยิง เขมรจะโละของเก่า หลังจากนี้เขมรจะครอบครองอาวุธอเมริกัน และอเมริกาจะไม่ขายอาวุธให้กับไทย อเมริกาเดินแผนให้ติด "กับดักหนี้" เพื่อครอบครอง อนาคต กองทัพไทยหนักแน่ ถ้าเขมรมันครอบครองอาวุธอเมริกา
    0 Comments 0 Shares 902 Views 0 Reviews
  • ย้อนตำนาน 50 ปี เขมรแดงบุกยึดพนมเปญ จุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกัมพูชา ... #แผ่นดินต้องคำสาป
    เมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๑๘ เมื่อกองกำลังเขมรแดง (Khmer Rouge) สามารถเข้าบุกยึดเมืองหลวงของประเทศ และควบคุมการปกครองของนายพลลอน นอล (Lon Nol) ซึ่งเป็นเผด็จการทหาร โดยมีรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเป็นผู้สนับสนุนได้สำเร็จ ท่ามกลางเสียงโห่ร้อง ดีใจของประชาชนที่ออกมาต้อนรับขับสู้ตามริมทาง มอบดอกไม้ต่างกำลังใจให้ผู้พิชิตเหล่านั้น โดยหารู้ไม่ว่า ในอีกไม่กี่เพลา ชีวิตของพวกเขากำลังเดินทางไปสู่เงื้อมมือของพญามัจจุราช
    เขมรแดง ซึ่งเป็นกองกำลังที่มีหัวขบวนหลักในการขับเคลื่อนโดยอดีตกลุ่มนักศึกษา "ปัญญาชนปารีส" อย่างพล พต (Pol Pot) เอียง ซารี เขียว สัมพัน ซอน เซน ฯลฯ ได้ยืนหยัดและยึดมั่นในอุดมการณ์ลัทธิซ้าย (คอมมิวนิสต์) อย่างสุดโต่งในการปฏิวัติกัมพูชา พวกเขามีความเชื่อว่า สังคมจะบังเกิดความจำเริญได้ ต้องมีความยุติธรรม ซึ่งจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าไม่มีความเท่าเทียม ความเท่าเทียมที่ว่านี้ รวมไปถึงความเท่าเทียมในความเป็นอยู่ ความเท่าเทียมทางรายได้ ความเท่าเทียมทางการศึกษา เป็นต้นว่า ทุกคนต้องทำงาน มีอาชีพเหมือนกัน คือ ใช้แรงงาน เป็น labour ตามทุ่งนาต่างๆ เพื่อป้อนผลผลิตเข้าสู่ "องค์การ (Angkar) — ชื่อเรียกส่วนกลางของพรรคคอมมิวนิสต์กัมพูชา" อยู่แบบเดียวกัน อาศัยร่วมกันในค่ายที่เรียกว่า "คอมมูน (Commune)" ทั้งนี้ ยังไม่นับไปถึงความเท่าเทียมในเรื่องส่วนบุคคลอย่าง การแต่งกายที่ต้องเหมือนกัน คือ สวมชุดสีดำ โพกผ้าขาวม้า ห้ามมีทรัพย์สินส่วนตัว แม้แต่สบู่ แปรงสีฟัน ข้าวของจำเป็นในการอุปโภคบริโภค องค์การก็จะเป็นคนจัดให้ ไม่วายกระทั่ง "เลือกคู่ครอง" ให้ โดยอ้าง "เหตุผลของรัฐ (raison d'état)"
    ในกรุงพนมเปญ เขมรแดงเกณฑ์ผู้คนชาวกรุงนับล้านอพยพออกจากเมือง โดยโกหกว่า กองทัพสหรัฐฯ เตรียมการทิ้งระเบิด ชาวกรุงเหล่านั้น เป็นชนชั้นกลาง ปัญญาชน เศรษฐี ซึ่งถือเป็น "ชนชั้นนำ (elite)" ที่เขมรแดงตราหน้าว่าเป็น "ศัตรูของรัฐ" ในเวลาต่อมา ถูกบังคับให้ต้องเดินเป็นระยะทางหลายกิโล กระจายกันไปตามภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ ตามแต่คำสั่งขององค์การ พวกเขาถูกนำตัวไปที่ค่าย (Commune) ที่ตั้งอยู่ตามทุ่งนาโล่งๆ หลายสิบแห่ง ที่ขนาดใหญ่และมีความสำคัญ เช่น ค่ายเสียมเรียบ พระตะบอง กันดาล เป็นต้น
    ตลอดระยะเวลาเกือบ ๔ ปีที่เขมรแดงขึ้นปกครองประเทศ กรุงพนมเปญกลายเป็นเมืองร้าง ไฟฟ้า ประปาไม่มีใช้ ยกเลิกโรงเรียน ธนาคาร โรงพยาบาล สาธารณูปโภคทุกอย่างถูกทำลาย เน้นการโดดเดี่ยวตัวเองเพื่อสร้างเศรษฐกิจแบบยังชีพตามอุดมการณ์พรรคคอมมิวนิสต์ คนทุกคนมีอาชีพเป็นแรงงาน ต้องทำงาน "เพื่อส่วนรวม" โดยไม่คิดถึงตัวเอง ๑๒ ชั่วโมง/วัน ตามทุ่งนา และจะได้รับอาหารจากองค์การเป็น "ข้าวเปล่าต้มสุก" ๑ กระป๋อง วันละ ๑ มื้อ ที่ถือได้ว่า "ดีแล้ว" เมื่อเทียบกับในคุก S-21 (ตวลสเลง) ที่ใช้คุมขัง "ศัตรูของรัฐ" ซึ่งได้รับอาหารเพียงข้าวต้ม ๓ ช้อน/วัน
    ด้วยการกดขี่ ใช้แรงงานอย่างไร้มนุษยธรรม ประกอบกับภาวะอาหารขาดแคลน อดอยาก มีผู้คนต้องล้มตายจากการขาดสารอาหาร การเจ็บป่วยที่ไม่มีแม้แต่ยารักษา เพราะแพทย์ถูกฆ่าตายจนหมดสิ้น ในฐานะ "ปัญญาชน" ซึ่งเป็นศัตรูของรัฐ คนป่วยต้องพึ่งพาสมุนไพร ใบไม้ในป่าพอประทัง และยังต้องทำงานเฉกเช่นเดียวกับคนปกติ การอู้งานอาจเป็นสาเหตุหนึ่งของข้อหา "ทรยศต่อองค์การ" ซึ่งแน่นอนว่าบทลงโทษของมันคือ "ความตาย"
    "ความตาย" กลายเป็น "มรณานุสสติ" ที่คนเขมรหวาดสะพรึงอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก ปัญญาชน คนต่างชาติ แม้แต่ "คนใส่แว่น" จะถูกฆ่าอย่างเหี้ยมโหด บ้างก็ถูกส่งไปทรมานในคุกพิเศษ บ้างก็ถูกฆ่ารวมกับ "พวกอู้งาน" กลางทุ่งนา จึงเป็นที่มาของคำเรียกว่า "ทุ่งสังหาร (killing field)"
    ท้ายที่สุด ภายใต้การนำของอดีตสมุนเขมรแดง ซึ่งรวมไปถึงนายกรัฐมนตรีกัมพูชาคนปัจจุบันอย่าง "ฮุน เซ็น" ได้ร่วมมือกับกองทัพเวียดนาม ซึ่งเป็นคอมมิวนิสต์คนละสายกับเขมรแดง (เวียดนามได้รับการสนับสนุนจากสหภาพโซเวียต ส่วนเขมรแดงได้รับการสนับสนุนจากจีน) เข้าบุกโจมตีกองทัพเขมรแดง เข้าปลดแอกประชาชนกัมพูชา จนได้รับชัยชนะ ควบคุมพนมเปญ และเปลี่ยนแปลงการปกครองได้ในปี ๒๕๒๒ ก่อนที่ความสูญเสียจะทวีคูณขึ้นเกิน ๓ ล้านคน หรือประมาณ ๑ ใน ๓ ของประชากรเขมรทั้งประเทศ
    ขอบพระคุณบทความจาก คุณ @Kanarop Chaiyasit
    ย้อนตำนาน 50 ปี เขมรแดงบุกยึดพนมเปญ จุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกัมพูชา ... #แผ่นดินต้องคำสาป เมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๑๘ เมื่อกองกำลังเขมรแดง (Khmer Rouge) สามารถเข้าบุกยึดเมืองหลวงของประเทศ และควบคุมการปกครองของนายพลลอน นอล (Lon Nol) ซึ่งเป็นเผด็จการทหาร โดยมีรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเป็นผู้สนับสนุนได้สำเร็จ ท่ามกลางเสียงโห่ร้อง ดีใจของประชาชนที่ออกมาต้อนรับขับสู้ตามริมทาง มอบดอกไม้ต่างกำลังใจให้ผู้พิชิตเหล่านั้น โดยหารู้ไม่ว่า ในอีกไม่กี่เพลา ชีวิตของพวกเขากำลังเดินทางไปสู่เงื้อมมือของพญามัจจุราช เขมรแดง ซึ่งเป็นกองกำลังที่มีหัวขบวนหลักในการขับเคลื่อนโดยอดีตกลุ่มนักศึกษา "ปัญญาชนปารีส" อย่างพล พต (Pol Pot) เอียง ซารี เขียว สัมพัน ซอน เซน ฯลฯ ได้ยืนหยัดและยึดมั่นในอุดมการณ์ลัทธิซ้าย (คอมมิวนิสต์) อย่างสุดโต่งในการปฏิวัติกัมพูชา พวกเขามีความเชื่อว่า สังคมจะบังเกิดความจำเริญได้ ต้องมีความยุติธรรม ซึ่งจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าไม่มีความเท่าเทียม ความเท่าเทียมที่ว่านี้ รวมไปถึงความเท่าเทียมในความเป็นอยู่ ความเท่าเทียมทางรายได้ ความเท่าเทียมทางการศึกษา เป็นต้นว่า ทุกคนต้องทำงาน มีอาชีพเหมือนกัน คือ ใช้แรงงาน เป็น labour ตามทุ่งนาต่างๆ เพื่อป้อนผลผลิตเข้าสู่ "องค์การ (Angkar) — ชื่อเรียกส่วนกลางของพรรคคอมมิวนิสต์กัมพูชา" อยู่แบบเดียวกัน อาศัยร่วมกันในค่ายที่เรียกว่า "คอมมูน (Commune)" ทั้งนี้ ยังไม่นับไปถึงความเท่าเทียมในเรื่องส่วนบุคคลอย่าง การแต่งกายที่ต้องเหมือนกัน คือ สวมชุดสีดำ โพกผ้าขาวม้า ห้ามมีทรัพย์สินส่วนตัว แม้แต่สบู่ แปรงสีฟัน ข้าวของจำเป็นในการอุปโภคบริโภค องค์การก็จะเป็นคนจัดให้ ไม่วายกระทั่ง "เลือกคู่ครอง" ให้ โดยอ้าง "เหตุผลของรัฐ (raison d'état)" ในกรุงพนมเปญ เขมรแดงเกณฑ์ผู้คนชาวกรุงนับล้านอพยพออกจากเมือง โดยโกหกว่า กองทัพสหรัฐฯ เตรียมการทิ้งระเบิด ชาวกรุงเหล่านั้น เป็นชนชั้นกลาง ปัญญาชน เศรษฐี ซึ่งถือเป็น "ชนชั้นนำ (elite)" ที่เขมรแดงตราหน้าว่าเป็น "ศัตรูของรัฐ" ในเวลาต่อมา ถูกบังคับให้ต้องเดินเป็นระยะทางหลายกิโล กระจายกันไปตามภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ ตามแต่คำสั่งขององค์การ พวกเขาถูกนำตัวไปที่ค่าย (Commune) ที่ตั้งอยู่ตามทุ่งนาโล่งๆ หลายสิบแห่ง ที่ขนาดใหญ่และมีความสำคัญ เช่น ค่ายเสียมเรียบ พระตะบอง กันดาล เป็นต้น ตลอดระยะเวลาเกือบ ๔ ปีที่เขมรแดงขึ้นปกครองประเทศ กรุงพนมเปญกลายเป็นเมืองร้าง ไฟฟ้า ประปาไม่มีใช้ ยกเลิกโรงเรียน ธนาคาร โรงพยาบาล สาธารณูปโภคทุกอย่างถูกทำลาย เน้นการโดดเดี่ยวตัวเองเพื่อสร้างเศรษฐกิจแบบยังชีพตามอุดมการณ์พรรคคอมมิวนิสต์ คนทุกคนมีอาชีพเป็นแรงงาน ต้องทำงาน "เพื่อส่วนรวม" โดยไม่คิดถึงตัวเอง ๑๒ ชั่วโมง/วัน ตามทุ่งนา และจะได้รับอาหารจากองค์การเป็น "ข้าวเปล่าต้มสุก" ๑ กระป๋อง วันละ ๑ มื้อ ที่ถือได้ว่า "ดีแล้ว" เมื่อเทียบกับในคุก S-21 (ตวลสเลง) ที่ใช้คุมขัง "ศัตรูของรัฐ" ซึ่งได้รับอาหารเพียงข้าวต้ม ๓ ช้อน/วัน ด้วยการกดขี่ ใช้แรงงานอย่างไร้มนุษยธรรม ประกอบกับภาวะอาหารขาดแคลน อดอยาก มีผู้คนต้องล้มตายจากการขาดสารอาหาร การเจ็บป่วยที่ไม่มีแม้แต่ยารักษา เพราะแพทย์ถูกฆ่าตายจนหมดสิ้น ในฐานะ "ปัญญาชน" ซึ่งเป็นศัตรูของรัฐ คนป่วยต้องพึ่งพาสมุนไพร ใบไม้ในป่าพอประทัง และยังต้องทำงานเฉกเช่นเดียวกับคนปกติ การอู้งานอาจเป็นสาเหตุหนึ่งของข้อหา "ทรยศต่อองค์การ" ซึ่งแน่นอนว่าบทลงโทษของมันคือ "ความตาย" "ความตาย" กลายเป็น "มรณานุสสติ" ที่คนเขมรหวาดสะพรึงอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก ปัญญาชน คนต่างชาติ แม้แต่ "คนใส่แว่น" จะถูกฆ่าอย่างเหี้ยมโหด บ้างก็ถูกส่งไปทรมานในคุกพิเศษ บ้างก็ถูกฆ่ารวมกับ "พวกอู้งาน" กลางทุ่งนา จึงเป็นที่มาของคำเรียกว่า "ทุ่งสังหาร (killing field)" ท้ายที่สุด ภายใต้การนำของอดีตสมุนเขมรแดง ซึ่งรวมไปถึงนายกรัฐมนตรีกัมพูชาคนปัจจุบันอย่าง "ฮุน เซ็น" ได้ร่วมมือกับกองทัพเวียดนาม ซึ่งเป็นคอมมิวนิสต์คนละสายกับเขมรแดง (เวียดนามได้รับการสนับสนุนจากสหภาพโซเวียต ส่วนเขมรแดงได้รับการสนับสนุนจากจีน) เข้าบุกโจมตีกองทัพเขมรแดง เข้าปลดแอกประชาชนกัมพูชา จนได้รับชัยชนะ ควบคุมพนมเปญ และเปลี่ยนแปลงการปกครองได้ในปี ๒๕๒๒ ก่อนที่ความสูญเสียจะทวีคูณขึ้นเกิน ๓ ล้านคน หรือประมาณ ๑ ใน ๓ ของประชากรเขมรทั้งประเทศ ขอบพระคุณบทความจาก คุณ @Kanarop Chaiyasit
    0 Comments 0 Shares 1K Views 0 Reviews
  • ทัพภาค2 เผย Sniper ทหารเขมร อยู่ทบนปราสาท เขาพระวิหาร ลอบ ซุ่มยิง ทหารไทย จากระยะไกล พบ ทหารเขมร เคลื่อนย้ายกำลังบางส่วนมาช่วยภูมะเขือ-ช่องอานม้า ที่ทหารไทยยึดอยู่
    ชี้ พื้นที่ภูผี - ปราสาทโดนตวล -ช่องตาเฒ่า ยังตรึงกำลังกันอยู่ ฝ่ายกัมพูชาสูญเสียอย่างหนัก
    ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา วันที่ 27 กรกฎาคม 2568 เวลา 12.00 น. ว่า สภาพอากาศตามแนวชายแดนยังปรากฏฝนตกหนักในหลายพื้นที่
    #ภาพรวมสถานการณ์ในช่วงบ่าย จนถึงช่วงกลางคืน ของวันที่ 26 ก.ค.68 มีการปฏิบัติที่สำคัญจำนวน 7 พื้นที่ (ลดลงจากวันแรก 3 พื้นที่)
    พื้นที่ ช่องบก ทั้ง 2 ฝ่าย ตรึงกำลัง และปรากฏข่าวสารว่ามีการเคลื่อนย้ายกำลังบางส่วนมาช่วยในพื้นที่ ภูมะเขือ, พื้นที่ช่องอานม้า ฝ่ายเราดำเนินการเข้าควบคุมพื้นที่ตามเส้นปฏิบัติการ 1 : 50,000 ขณะที่กำลังประเทศกัมพูชาได้เคลื่อนย้ายลงไปทางทิศใต้
    พื้นที่ภูผี - ปราสาทโดนตวล และช่องตาเฒ่า ยังตรึงกำลังกันอยู่ ฝ่ายประเทศกัมพูชาน่าจะมีการสูญเสียอย่างหนัก
    สำหรับ ข่าวสาร ที่ว่า ผู้บัญชาการกองพลของประเทศกัมพูชา ที่เป็นผู้รับผิดชอบพื้นที่นี้ เสียชีวิต ในการปฏิบัติการทางทหารแล้ว นั้น ยังไม่สามารถยืนยันข่าวสารนี้ได้
    พื้นที่ ด้านหน้าเขาพระวิหาร ยังคงมีการสู้รบกันอยู่ โดยอาวุธหลักของประเทศกัมพูชา คือการใช้พลซุ่มยิง จากพื้นที่ปราสาทพระวิหาร มุ่งทำร้ายกำลังพลของเรา
    #cambodiafiringnonstop
    #CambodiaOpenedFire
    #hunsenwarcriminal
    #ปราสาทเขาพระวิหาร
    : ภาพทหารเขมรส่องจากเขาพระวิหาร มายังผามออีแดง ฝั่งไทย
    ทัพภาค2 เผย Sniper ทหารเขมร อยู่ทบนปราสาท เขาพระวิหาร ลอบ ซุ่มยิง ทหารไทย จากระยะไกล พบ ทหารเขมร เคลื่อนย้ายกำลังบางส่วนมาช่วยภูมะเขือ-ช่องอานม้า ที่ทหารไทยยึดอยู่ ชี้ พื้นที่ภูผี - ปราสาทโดนตวล -ช่องตาเฒ่า ยังตรึงกำลังกันอยู่ ฝ่ายกัมพูชาสูญเสียอย่างหนัก ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา วันที่ 27 กรกฎาคม 2568 เวลา 12.00 น. ว่า สภาพอากาศตามแนวชายแดนยังปรากฏฝนตกหนักในหลายพื้นที่ #ภาพรวมสถานการณ์ในช่วงบ่าย จนถึงช่วงกลางคืน ของวันที่ 26 ก.ค.68 มีการปฏิบัติที่สำคัญจำนวน 7 พื้นที่ (ลดลงจากวันแรก 3 พื้นที่) พื้นที่ ช่องบก ทั้ง 2 ฝ่าย ตรึงกำลัง และปรากฏข่าวสารว่ามีการเคลื่อนย้ายกำลังบางส่วนมาช่วยในพื้นที่ ภูมะเขือ, พื้นที่ช่องอานม้า ฝ่ายเราดำเนินการเข้าควบคุมพื้นที่ตามเส้นปฏิบัติการ 1 : 50,000 ขณะที่กำลังประเทศกัมพูชาได้เคลื่อนย้ายลงไปทางทิศใต้ พื้นที่ภูผี - ปราสาทโดนตวล และช่องตาเฒ่า ยังตรึงกำลังกันอยู่ ฝ่ายประเทศกัมพูชาน่าจะมีการสูญเสียอย่างหนัก สำหรับ ข่าวสาร ที่ว่า ผู้บัญชาการกองพลของประเทศกัมพูชา ที่เป็นผู้รับผิดชอบพื้นที่นี้ เสียชีวิต ในการปฏิบัติการทางทหารแล้ว นั้น ยังไม่สามารถยืนยันข่าวสารนี้ได้ พื้นที่ ด้านหน้าเขาพระวิหาร ยังคงมีการสู้รบกันอยู่ โดยอาวุธหลักของประเทศกัมพูชา คือการใช้พลซุ่มยิง จากพื้นที่ปราสาทพระวิหาร มุ่งทำร้ายกำลังพลของเรา #cambodiafiringnonstop #CambodiaOpenedFire #hunsenwarcriminal #ปราสาทเขาพระวิหาร : ภาพทหารเขมรส่องจากเขาพระวิหาร มายังผามออีแดง ฝั่งไทย
    0 Comments 0 Shares 2K Views 0 Reviews
  • ทัพภาค2 เผย Sniper ทหารเขมร
    อยู่ทบนปราสาท เขาพระวิหาร
    ลอบ ซุ่มยิง ทหารไทย จากระยะไกล
    พบ ทหารเขมร เคลื่อนย้ายกำลังบางส่วนมาช่วยภูมะเขือ-ช่องอานม้า ที่ทหารไทยยึดอยู่
    ชี้ พื้นที่ภูผี - ปราสาทโดนตวล -ช่องตาเฒ่า ยังตรึงกำลังกันอยู่ ฝ่ายกัมพูชาสูญเสียอย่างหนัก
    .
    ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา วันที่ 27 กรกฎาคม 2568 เวลา 12.00 น. ว่า สภาพอากาศตามแนวชายแดนยังปรากฏฝนตกหนักในหลายพื้นที่
    ภาพรวมสถานการณ์ในช่วงบ่าย จนถึงช่วงกลางคืน ของวันที่ 26 ก.ค.68 มีการปฏิบัติที่สำคัญจำนวน 7 พื้นที่ (ลดลงจากวันแรก 3 พื้นที่)
    พื้นที่ ช่องบก ทั้ง 2 ฝ่าย ตรึงกำลัง และปรากฏข่าวสารว่ามีการเคลื่อนย้ายกำลังบางส่วนมาช่วยในพื้นที่ ภูมะเขือ, พื้นที่ช่องอานม้า ฝ่ายเราดำเนินการเข้าควบคุมพื้นที่ตามเส้นปฏิบัติการ 1 : 50,000 ขณะที่กำลังประเทศกัมพูชาได้เคลื่อนย้ายลงไปทางทิศใต้
    พื้นที่ภูผี - ปราสาทโดนตวล และช่องตาเฒ่า ยังตรึงกำลังกันอยู่ ฝ่ายประเทศกัมพูชาน่าจะมีการสูญเสียอย่างหนัก
    สำหรับ ข่าวสาร ที่ว่า ผู้บัญชาการกองพลของประเทศกัมพูชา ที่เป็นผู้รับผิดชอบพื้นที่นี้ เสียชีวิต ในการปฏิบัติการทางทหารแล้ว นั้น ยังไม่สามารถยืนยันข่าวสารนี้ได้
    พื้นที่ ด้านหน้าเขาพระวิหาร ยังคงมีการสู้รบกันอยู่ โดยอาวุธหลักของประเทศกัมพูชา คือการใช้พลซุ่มยิง จากพื้นที่ปราสาทพระวิหาร มุ่งทำร้ายกำลังพลของเรา
    #cambodiafiringnonstop
    #CambodiaOpenedFire
    #hunsenwarcriminal
    #ปราสาทเขาพระวิหาร
    : ภาพทหารเขมรส่องจากเขาพระวิหาร มายังผามออีแดง ฝั่งไทย
    Cr.Wassana Nanuam
    ทัพภาค2 เผย Sniper ทหารเขมร อยู่ทบนปราสาท เขาพระวิหาร ลอบ ซุ่มยิง ทหารไทย จากระยะไกล พบ ทหารเขมร เคลื่อนย้ายกำลังบางส่วนมาช่วยภูมะเขือ-ช่องอานม้า ที่ทหารไทยยึดอยู่ ชี้ พื้นที่ภูผี - ปราสาทโดนตวล -ช่องตาเฒ่า ยังตรึงกำลังกันอยู่ ฝ่ายกัมพูชาสูญเสียอย่างหนัก . ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา วันที่ 27 กรกฎาคม 2568 เวลา 12.00 น. ว่า สภาพอากาศตามแนวชายแดนยังปรากฏฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ภาพรวมสถานการณ์ในช่วงบ่าย จนถึงช่วงกลางคืน ของวันที่ 26 ก.ค.68 มีการปฏิบัติที่สำคัญจำนวน 7 พื้นที่ (ลดลงจากวันแรก 3 พื้นที่) พื้นที่ ช่องบก ทั้ง 2 ฝ่าย ตรึงกำลัง และปรากฏข่าวสารว่ามีการเคลื่อนย้ายกำลังบางส่วนมาช่วยในพื้นที่ ภูมะเขือ, พื้นที่ช่องอานม้า ฝ่ายเราดำเนินการเข้าควบคุมพื้นที่ตามเส้นปฏิบัติการ 1 : 50,000 ขณะที่กำลังประเทศกัมพูชาได้เคลื่อนย้ายลงไปทางทิศใต้ พื้นที่ภูผี - ปราสาทโดนตวล และช่องตาเฒ่า ยังตรึงกำลังกันอยู่ ฝ่ายประเทศกัมพูชาน่าจะมีการสูญเสียอย่างหนัก สำหรับ ข่าวสาร ที่ว่า ผู้บัญชาการกองพลของประเทศกัมพูชา ที่เป็นผู้รับผิดชอบพื้นที่นี้ เสียชีวิต ในการปฏิบัติการทางทหารแล้ว นั้น ยังไม่สามารถยืนยันข่าวสารนี้ได้ พื้นที่ ด้านหน้าเขาพระวิหาร ยังคงมีการสู้รบกันอยู่ โดยอาวุธหลักของประเทศกัมพูชา คือการใช้พลซุ่มยิง จากพื้นที่ปราสาทพระวิหาร มุ่งทำร้ายกำลังพลของเรา #cambodiafiringnonstop #CambodiaOpenedFire #hunsenwarcriminal #ปราสาทเขาพระวิหาร : ภาพทหารเขมรส่องจากเขาพระวิหาร มายังผามออีแดง ฝั่งไทย Cr.Wassana Nanuam
    0 Comments 0 Shares 1K Views 0 Reviews
  • ข่าวชายแดนตอนนี้ตึงเครียดสุดๆ! กัมพูชาเขา 'เรียกไพ่ใบสุดท้าย' งัดเอาอาวุธหนักอย่าง จรวด PHL03 ที่ยิงไกลถึง 120 กม. มาขู่เราเต็มที่เลยนะ
    ที่น่าตกใจคือตอนนี้มีคำสั่ง อพยพด่วนจาก มทบ.25 แล้วด้วย เพราะเหมือนเป็นเป้าโจมตีของทหารเขมรนั่นเอง ไม่ใช่แค่นั้นนะ! กองทัพบกไทยเราออกมาบอกว่า กัมพูชาเขายังไม่ยอมหยุดยิงเลย แถมยังเสริมอาวุธหนักอย่างจรวด PHL03, RM70, BM21 เข้ามาอีก ที่เลวร้ายคือเขายิงเข้าใส่พื้นที่พลเรือนของเราด้วย! ทั้งโรงพยาบาลบ้านชำเม้ง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ก็โดนยิงไปแล้ว!
    สถานการณ์ตอนนี้คือ กัมพูชาเขา เปิดแนวรบยาวถึง 800 กม. ตลอดแนวชายแดน ตั้งแต่ช่องบกยัน จ.ตราดเลยนะ! ทำให้จันทบุรีกับตราดต้องประกาศภาวะฉุกเฉินทันทีเลย ทางไทยเราก็ไม่ยอมอยู่แล้ว โฆษกกองทัพบกยืนยันว่า จะสู้เต็มที่เพื่อตอบโต้ผู้รุกรานและปกป้องประชาชน รัฐบาลไทยก็ประกาศจุดยืนชัดเจนว่าเน้นสันติภาพ แต่การตอบโต้ของเราจะ มุ่งเป้าไปที่ฐานยิ่งจรวดของกัมพูชา ที่โจมตีพลเรือนเท่านั้น

    Cr.วาสนา รักเมืองไทย
    ข่าวชายแดนตอนนี้ตึงเครียดสุดๆ! กัมพูชาเขา 'เรียกไพ่ใบสุดท้าย' งัดเอาอาวุธหนักอย่าง จรวด PHL03 ที่ยิงไกลถึง 120 กม. มาขู่เราเต็มที่เลยนะ ที่น่าตกใจคือตอนนี้มีคำสั่ง อพยพด่วนจาก มทบ.25 แล้วด้วย เพราะเหมือนเป็นเป้าโจมตีของทหารเขมรนั่นเอง ไม่ใช่แค่นั้นนะ! กองทัพบกไทยเราออกมาบอกว่า กัมพูชาเขายังไม่ยอมหยุดยิงเลย แถมยังเสริมอาวุธหนักอย่างจรวด PHL03, RM70, BM21 เข้ามาอีก ที่เลวร้ายคือเขายิงเข้าใส่พื้นที่พลเรือนของเราด้วย! ทั้งโรงพยาบาลบ้านชำเม้ง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ก็โดนยิงไปแล้ว! สถานการณ์ตอนนี้คือ กัมพูชาเขา เปิดแนวรบยาวถึง 800 กม. ตลอดแนวชายแดน ตั้งแต่ช่องบกยัน จ.ตราดเลยนะ! ทำให้จันทบุรีกับตราดต้องประกาศภาวะฉุกเฉินทันทีเลย ทางไทยเราก็ไม่ยอมอยู่แล้ว โฆษกกองทัพบกยืนยันว่า จะสู้เต็มที่เพื่อตอบโต้ผู้รุกรานและปกป้องประชาชน รัฐบาลไทยก็ประกาศจุดยืนชัดเจนว่าเน้นสันติภาพ แต่การตอบโต้ของเราจะ มุ่งเป้าไปที่ฐานยิ่งจรวดของกัมพูชา ที่โจมตีพลเรือนเท่านั้น Cr.วาสนา รักเมืองไทย
    0 Comments 0 Shares 989 Views 0 Reviews
  • เอาให้ยับค่ะ!!!
    มีรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ กองทัพอากาศไทยได้ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และ JAS 39 Gripen จำนวน 2 ลำ ขึ้นปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อตำแหน่งทางทหารของกองทัพกัมพูชา ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวปราสาทตาควายและปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์
    .
    เนื่องจากตำแหน่งดังกล่าว ทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และจรวดหลายลำกล้อง BM-21 เพื่อใช้ยิงโจมตีข้ามพรมแดนเข้ามายังประเทศไทย ซึ่งสร้างความเสียหายต่อโบราณสถานอย่างปราสาทตาควายและปราสาทตาเมือนธม และชุมชนพลเรือนคนไทย
    .
    ตามรายงานเบื้องต้นระบุว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 และ JAS 39 Gripen ของกองทัพอากาศไทย ได้ปฏิบัติภารกิจทำลายเป้าหมายสำคัญทั้งสองแห่งสำเร็จลุล่วง และเดินทางกลับฐานปฏิบัติการอย่างปลอดภัย
    .
    Reports indicate that at 11:00 AM today, the Royal Thai Air Force deployed two F-16 fighter jets and two JAS 39 Gripen aircraft for an air strike operation against Cambodian military positions located not far from Prasat Ta Khwai and Prasat Ta Muean Thom in Surin Province.
    .
    These positions were where Cambodian soldiers had set up artillery and BM-21 multiple launch rocket systems to fire across the border into Thailand, causing damage to ancient sites like Prasat Ta Khwai and Prasat Ta Muean Thom, as well as Thai civilian communities.
    .
    Initial reports state that the Royal Thai Air Force's F-16s and JAS 39 Gripens successfully completed their mission, destroying both critical targets, and safely returned to their operational base.
    เอาให้ยับค่ะ!!! มีรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ กองทัพอากาศไทยได้ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และ JAS 39 Gripen จำนวน 2 ลำ ขึ้นปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อตำแหน่งทางทหารของกองทัพกัมพูชา ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวปราสาทตาควายและปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ . เนื่องจากตำแหน่งดังกล่าว ทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และจรวดหลายลำกล้อง BM-21 เพื่อใช้ยิงโจมตีข้ามพรมแดนเข้ามายังประเทศไทย ซึ่งสร้างความเสียหายต่อโบราณสถานอย่างปราสาทตาควายและปราสาทตาเมือนธม และชุมชนพลเรือนคนไทย . ตามรายงานเบื้องต้นระบุว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 และ JAS 39 Gripen ของกองทัพอากาศไทย ได้ปฏิบัติภารกิจทำลายเป้าหมายสำคัญทั้งสองแห่งสำเร็จลุล่วง และเดินทางกลับฐานปฏิบัติการอย่างปลอดภัย . Reports indicate that at 11:00 AM today, the Royal Thai Air Force deployed two F-16 fighter jets and two JAS 39 Gripen aircraft for an air strike operation against Cambodian military positions located not far from Prasat Ta Khwai and Prasat Ta Muean Thom in Surin Province. . These positions were where Cambodian soldiers had set up artillery and BM-21 multiple launch rocket systems to fire across the border into Thailand, causing damage to ancient sites like Prasat Ta Khwai and Prasat Ta Muean Thom, as well as Thai civilian communities. . Initial reports state that the Royal Thai Air Force's F-16s and JAS 39 Gripens successfully completed their mission, destroying both critical targets, and safely returned to their operational base.
    0 Comments 0 Shares 752 Views 0 Reviews
  • ทบ.ไม่ยืนยัน PHL03เขมรถูกทำลาย หรือ ตรวจไม่พบ?
    .
    กองทัพ ยังไม่ยืนยีน จรวด PHL-03 ของเขมร ถูกทำลาย จริงหรือไม่ ยังไม่มีรายงานยืนยัน
    หลังมีข่าวว่า อาจถูกทำลายแล้ว 1
    ท่ามกลางข่าวว่า ยังตรวจหา ไม่พบ จึงสันนิษฐาน ว่า อาจถูกทำลาย
    เผย ทหารเขมร ระดมยิง BM21 ใส่ ปราสาทตาเมือนธม อย่างหนัก หวังยึดให้ได้ !
    เสริมกำลัง ปราสาทตาควาย
    ทบ.ส่งรถถังจีน VT-4 ออกสนามรบ
    ทหารไทย ยึดคืน ช่องอานม้า

    .
    หลังจากที่ สื่อเสนอข่าว รายงาน
    ความคืบหน้า สถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา วันที่ 27 ก.ค. 2568 ว่า พร้อมระบุว่่ เวลา 12.50 น. มีรายงานว่า จรวดหลายลำกล้อง PHL-03 ของกัมพูชา ถูกทำลายแล้ว 1 ระบบ ยังเหลืออีก 5 ระบบ นั้น

    พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ยืนยันว่า จนตอนนี้ยังไม่มีรายงานยืนยันว่าอาวุธดังกล่าวถูกทำลายไปแล้วหรือไม่ แต่ข่าวสารที่ออกมาคือเป็นงานด้านการข่าวที่มีการคาดการณ์ ว่าจะมีการนำอาวุธชนิดนี้ มาใช้ เท่านั้นท

    อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้น มีรายงานว่า ฝ่ายไทย มีความพยายามในการ ตรวจหา อาวุธนี้ ของกัมพูชา แต่ไม่พบ จึงคาดว่า ถูกทำลาย ไปบ้างแล้ว

    ท่ามกลางการจับตามองว่า กัมพูชา จะกล้ายิง จรวดชนิดนี้ ที่ยิงไกล 130 กม. หรือไม่ เพราะฝ่ายไทย ก็พร้อมตอบโต้ ด้วยลูกยาว จาก DTI -1G
    ปืนใหญ่ Caesar และ เครื่องบินรบ จะเข้าปฏิบัติการเชิงลึก ในพื้นที่กัมพูชาเลย

    ทั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาค2 รายงาน ความคืบหน้า สถานการณ์ ว่า
    - เวลา 04.30 น. กัมพูชาเปิดฉากโจมตียิงทหารไทย ที่ปราสาทตาควาย เพื่อยึดคืนปราสาท

    เวลา 05.00 น. พนมดงรัก เริ่มทำการเปิดฉากการยิง , เวลา 06.30 น. กระสุนปืนใหญ่ (ไม่ทราบชนิด) ตกบริเวณพื้นที่ บ้านตาโสร์ ม.10 ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท จ.สรินทร์

    เวลา 06.40 น. กระสุนปืนใหญ่จากฝั่งกัมพูชา ตกใส่บ้านประชาชนใน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ได้รับความเสียหาย

    เวลา 07.45 น.มีกระสุนปืนใหญ่ (ไม่ทราบชนิด) ตกบริเวณพื้นที่ บ้านหนองจูบ ม.2 ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จำนวน 3 ลูก

    เวลา 07.50 ทหารกัมพูชายังยิงจรวด BM-21 ลงมาในพื้นที่ อ.ช่องจอม จ.สุรินทร์ บ้านเรือนประชาชนเสียหาย ส่วนชาวบ้านอพยพไปยังสถานที่ปลอดภัย ก่อนหน้านี้แล้ว

    เวลา 08.00 น. ทหารไทยยึดคืนพื้นที่ช่องอานม้าสำเร็จ นำธงชาติไทยมาเชิญขึ้นสู่ยอดเสาอีกครั้ง

    เวลา 08.21 น. มีรายงานว่าทหารกัมพูชาได้ยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 เข้าใส่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นการทำลายโบราณสถานอย่างรุนแรง

    เวลา 08.32 น. กัมพูชาระดมยิง ต่อเนื่อง หวังจะยึดปราสาทตาควาย คืนจากไทย ส่งกำลังพลมาหลายกองพันเข้าตี

    เวลา 10.20 น. กองทัพบกนำรถถัง VT-4 ออกปฏิบัติการ ตัดเส้นทางเติมกำลังของฝ่ายกัมพูชา

    เวลา 11.30 น. ตำรวจและ จนท.ฝ่ายความมั่นคงจังหวัดสุรินทร์ เข้าจับกุมสายลับกัมพูชาได้เพิ่มอีก 1 รายที่บ้านตาเมียง ม.1 ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ตระเวนถ่ายภาพสถานที่ต่าง ๆ ส่งให้ทางกัมพูชา

    -เวลา 12.50 น. มีรายงานว่า จรวดหลายลำกล้อง PHL-03 ของกัมพูชา ถูกทำลายแล้ว 1 ระบบ เหลืออีก 5 ระบบ
    CR Wassana Nanuam
    #cambodiaOpenedFire
    #cambodiafiringnonstop
    #hunsenwarcriminal
    #PHL03Cambodia
    #DTi1GThaiMoD
    ทบ.ไม่ยืนยัน PHL03เขมรถูกทำลาย หรือ ตรวจไม่พบ? . กองทัพ ยังไม่ยืนยีน จรวด PHL-03 ของเขมร ถูกทำลาย จริงหรือไม่ ยังไม่มีรายงานยืนยัน หลังมีข่าวว่า อาจถูกทำลายแล้ว 1 ท่ามกลางข่าวว่า ยังตรวจหา ไม่พบ จึงสันนิษฐาน ว่า อาจถูกทำลาย เผย ทหารเขมร ระดมยิง BM21 ใส่ ปราสาทตาเมือนธม อย่างหนัก หวังยึดให้ได้ ! เสริมกำลัง ปราสาทตาควาย ทบ.ส่งรถถังจีน VT-4 ออกสนามรบ ทหารไทย ยึดคืน ช่องอานม้า . หลังจากที่ สื่อเสนอข่าว รายงาน ความคืบหน้า สถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา วันที่ 27 ก.ค. 2568 ว่า พร้อมระบุว่่ เวลา 12.50 น. มีรายงานว่า จรวดหลายลำกล้อง PHL-03 ของกัมพูชา ถูกทำลายแล้ว 1 ระบบ ยังเหลืออีก 5 ระบบ นั้น พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ยืนยันว่า จนตอนนี้ยังไม่มีรายงานยืนยันว่าอาวุธดังกล่าวถูกทำลายไปแล้วหรือไม่ แต่ข่าวสารที่ออกมาคือเป็นงานด้านการข่าวที่มีการคาดการณ์ ว่าจะมีการนำอาวุธชนิดนี้ มาใช้ เท่านั้นท อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้น มีรายงานว่า ฝ่ายไทย มีความพยายามในการ ตรวจหา อาวุธนี้ ของกัมพูชา แต่ไม่พบ จึงคาดว่า ถูกทำลาย ไปบ้างแล้ว ท่ามกลางการจับตามองว่า กัมพูชา จะกล้ายิง จรวดชนิดนี้ ที่ยิงไกล 130 กม. หรือไม่ เพราะฝ่ายไทย ก็พร้อมตอบโต้ ด้วยลูกยาว จาก DTI -1G ปืนใหญ่ Caesar และ เครื่องบินรบ จะเข้าปฏิบัติการเชิงลึก ในพื้นที่กัมพูชาเลย ทั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาค2 รายงาน ความคืบหน้า สถานการณ์ ว่า - เวลา 04.30 น. กัมพูชาเปิดฉากโจมตียิงทหารไทย ที่ปราสาทตาควาย เพื่อยึดคืนปราสาท เวลา 05.00 น. พนมดงรัก เริ่มทำการเปิดฉากการยิง , เวลา 06.30 น. กระสุนปืนใหญ่ (ไม่ทราบชนิด) ตกบริเวณพื้นที่ บ้านตาโสร์ ม.10 ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท จ.สรินทร์ เวลา 06.40 น. กระสุนปืนใหญ่จากฝั่งกัมพูชา ตกใส่บ้านประชาชนใน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ได้รับความเสียหาย เวลา 07.45 น.มีกระสุนปืนใหญ่ (ไม่ทราบชนิด) ตกบริเวณพื้นที่ บ้านหนองจูบ ม.2 ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จำนวน 3 ลูก เวลา 07.50 ทหารกัมพูชายังยิงจรวด BM-21 ลงมาในพื้นที่ อ.ช่องจอม จ.สุรินทร์ บ้านเรือนประชาชนเสียหาย ส่วนชาวบ้านอพยพไปยังสถานที่ปลอดภัย ก่อนหน้านี้แล้ว เวลา 08.00 น. ทหารไทยยึดคืนพื้นที่ช่องอานม้าสำเร็จ นำธงชาติไทยมาเชิญขึ้นสู่ยอดเสาอีกครั้ง เวลา 08.21 น. มีรายงานว่าทหารกัมพูชาได้ยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 เข้าใส่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นการทำลายโบราณสถานอย่างรุนแรง เวลา 08.32 น. กัมพูชาระดมยิง ต่อเนื่อง หวังจะยึดปราสาทตาควาย คืนจากไทย ส่งกำลังพลมาหลายกองพันเข้าตี เวลา 10.20 น. กองทัพบกนำรถถัง VT-4 ออกปฏิบัติการ ตัดเส้นทางเติมกำลังของฝ่ายกัมพูชา เวลา 11.30 น. ตำรวจและ จนท.ฝ่ายความมั่นคงจังหวัดสุรินทร์ เข้าจับกุมสายลับกัมพูชาได้เพิ่มอีก 1 รายที่บ้านตาเมียง ม.1 ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ตระเวนถ่ายภาพสถานที่ต่าง ๆ ส่งให้ทางกัมพูชา -เวลา 12.50 น. มีรายงานว่า จรวดหลายลำกล้อง PHL-03 ของกัมพูชา ถูกทำลายแล้ว 1 ระบบ เหลืออีก 5 ระบบ CR Wassana Nanuam #cambodiaOpenedFire #cambodiafiringnonstop #hunsenwarcriminal #PHL03Cambodia #DTi1GThaiMoD
    0 Comments 0 Shares 1K Views 0 Reviews
  • ทบ.แจ้งยอดกำลังพลเสียชีวิตแล้ว 6 นาย
    25 กรกฎาคม 2568 เมื่อเวลา 20.45 น. ทางทีมโฆษกกองทัพบกรายงานว่า กองทัพบกขอรายงานข้อมูลการสูญเสียกำลังพลจากการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันประเทศ ตลอดช่วงการปะทะในพื้นที่ชายแดน ระหว่างวันที่ 24–25 กรกฎาคม 2568 กองทัพบกขอรายงานการสูญเสียกำลังพลรวมทั้งสิ้น 6 นาย แบ่งเป็น
    - นายสิบ จำนวน 5 นาย
    - พลทหาร จำนวน 1 นาย
    .
    โดยสรุปสถานการณ์ผู้ได้รับผลกระทบจากการปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา ณ วันที่ 25 กรกฎาคม 2568 เวลา 20.00 น. มียอดผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสะสมรวมดังนี้
    1.พลเรือน
    เสียชีวิต: 13 ราย
    บาดเจ็บสาหัส: 10 ราย
    บาดเจ็บปานกลาง: 10 ราย
    บาดเจ็บเล็กน้อย: 13 ราย
    รวมทั้งสิ้น: 46 ราย
    2. ทหาร
    เสียชีวิต: 6 นาย
    บาดเจ็บสาหัส: 7 นาย
    บาดเจ็บปานกลาง: 5 นาย
    บาดเจ็บเล็กน้อย: 3 นาย
    รวมทั้งสิ้น: 21 นาย
    .
    รวมผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 19 ราย และผู้บาดเจ็บรวม 48 ราย
    .
    กองทัพไทยขอแสดงความไว้อาลัยและสดุดีวีรกรรมของทหารกล้าผู้เสียสละชีวิตเพื่อปกป้องผืนแผ่นดิน และอธิปไตยของชาติอย่างหาญกล้า
    .
    #Saveชีวิตคนไทย #ไทยเขมร #ชายแดน #กัมพูชา #ไทย #ชายแดนไทยกัมพูชา #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยรัฐทีวี32
    ทบ.แจ้งยอดกำลังพลเสียชีวิตแล้ว 6 นาย 25 กรกฎาคม 2568 เมื่อเวลา 20.45 น. ทางทีมโฆษกกองทัพบกรายงานว่า กองทัพบกขอรายงานข้อมูลการสูญเสียกำลังพลจากการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันประเทศ ตลอดช่วงการปะทะในพื้นที่ชายแดน ระหว่างวันที่ 24–25 กรกฎาคม 2568 กองทัพบกขอรายงานการสูญเสียกำลังพลรวมทั้งสิ้น 6 นาย แบ่งเป็น - นายสิบ จำนวน 5 นาย - พลทหาร จำนวน 1 นาย . โดยสรุปสถานการณ์ผู้ได้รับผลกระทบจากการปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา ณ วันที่ 25 กรกฎาคม 2568 เวลา 20.00 น. มียอดผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสะสมรวมดังนี้ 1.พลเรือน เสียชีวิต: 13 ราย บาดเจ็บสาหัส: 10 ราย บาดเจ็บปานกลาง: 10 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย: 13 ราย รวมทั้งสิ้น: 46 ราย 2. ทหาร เสียชีวิต: 6 นาย บาดเจ็บสาหัส: 7 นาย บาดเจ็บปานกลาง: 5 นาย บาดเจ็บเล็กน้อย: 3 นาย รวมทั้งสิ้น: 21 นาย . รวมผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 19 ราย และผู้บาดเจ็บรวม 48 ราย . กองทัพไทยขอแสดงความไว้อาลัยและสดุดีวีรกรรมของทหารกล้าผู้เสียสละชีวิตเพื่อปกป้องผืนแผ่นดิน และอธิปไตยของชาติอย่างหาญกล้า . #Saveชีวิตคนไทย #ไทยเขมร #ชายแดน #กัมพูชา #ไทย #ชายแดนไทยกัมพูชา #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยรัฐทีวี32
    0 Comments 0 Shares 2K Views 0 Reviews
  • สิ่งที่ฮุนเซนต้องการจริงๆ ไม่ใช่แค่การสู้รบชายแดน แต่คือการกำจัดทหารที่อาจไม่ภักดีต่ออำนาจของตระกูลฮุน?
    ตอนนี้ฮุนเซนลดงบประมาณของกองทัพลงอย่างมีนัยยะ แล้วโยกเงินไปสร้าง “กองกำลังพิเศษ” ที่มีเฉพาะคนใกล้ชิดเท่านั้นที่ได้ใช้อาวุธทันสมัย
    ทหารกัมพูชาธรรมดาไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้สัมผัสอาวุธเหล่านั้น แต่กลับถูกส่งไปตายชายแดน ด้วยคำว่ารักชาติบังหน้า
    ล่าสุด ฮุน เซนกำลังจะส่ง “กองทัพเรือ” มาปะทะ ทั้งๆ ที่ไม่มีข้อพิพาททางทะเลกับไทย เรือรบก็ยังไม่มีพร้อม แต่นายพลกับกำลังพลกลับถูกสั่งให้ออกหน้าไปตาย
    นี่มันแปลกเกินไป และชัดเจนว่าไม่ใช่สงครามเพื่อประเทศชาติ แต่คือสงครามเพื่อรักษาอำนาจของตระกูล
    ไม่มีผู้นำที่ไหนในโลกจะบ้าเลือดถึงขนาดส่งลูกน้องตัวเองไปตาย ทั้งๆ ที่รู้ว่าแพ้แน่
    ประเทศเล็กอย่างกัมพูชา ประชาคมโลกอาจไม่ใส่ใจ แต่ความจริงคือ… ทหารกัมพูชากำลังถูกใช้เป็นเหยื่อในเกมอำนาจของคนๆ เดียว
    What Hun Sen truly wants isn’t just a border war — it’s to eliminate soldiers who may no longer be loyal to his dynasty.
    He has quietly slashed the national military budget and redirected funds to build a “special guard force” equipped with state-of-the-art weapons, available only to those loyal to him personally.
    Ordinary Cambodian soldiers never even get to touch this kind of equipment. Instead, they’re sent to die on the frontlines — all in the name of nationalism.
    And now, Hun Sen is preparing to send the navy to the battlefield — even though there is no maritime dispute with Thailand. There aren’t even proper warships ready, yet generals and sailors are being deployed to die.
    It’s not just strange. It’s strategic.
    This is not a war for the country. It’s a purge — a calculated operation to remove anyone in uniform who might challenge the Hun dynasty’s grip on power.
    No rational leader would send his own men to die knowing they will lose — unless death is the plan.
    The world may ignore a small country like Cambodia, but the truth is this:
    Cambodian soldiers are being sacrificed — not for the nation — but for one man’s throne.
    អ្វីដែលហ៊ុន សែនចង់បានមែនមិនមែនសង្គ្រាមព្រំដែនទេ — តែគឺការបញ្ជប់ទាហានដែលអាចនឹងមិនស្មោះត្រង់នឹងរាជវង្សរបស់គាត់។
    គាត់បានកាត់បន្ថយថវិកាថ្នាក់យោធាជាសម្ងាត់ ហើយបញ្ចូនថវិកាទៅកែលំអកងពិសេសសម្រាប់ការការពារខ្លួនឯង ដែលមានអាវុធស្ទើរតែទំនើបបំផុត ហើយមានតែអ្នកដែលស្មោះត្រង់តែប៉ុណ្ណោះទទួលបាន។
    ទាហានជាធម្មតាមិនបានស្ទាប់ដល់អាវុធទំនើបទេ។ តែនៅទីបំផុត ត្រូវបញ្ជូនទៅស្លាប់នៅតំបន់ព្រំដែន ដោយប្រើពាក្យថា “ស្មោះនឹងជាតិ” ជាអាវការពារ។
    ឥឡូវនេះ ហ៊ុន សែនកំពុងរៀបចំផ្ញើកងទ័ពជើងទឹកចូលសង្រ្គាម ទោះបីជាមិនមានវិវាទសមុទ្រជាមួយថៃផងដែរ។ កប៉ាល់ប្រយុទ្ធក៏មិនទាន់មានត្រៀមខ្លួនរួចផង ស៉ាងតែឧត្តមសេនីយ៍ និងទាហានត្រូវបានផ្ញើឲ្យទៅស្លាប់។
    នេះមិនមែនគ្រាន់តែចម្លែកទេ — តែជាយុទ្ធសាស្រ្ត។
    នេះមិនមែនជាសង្គ្រាមដើម្បីប្រទេសនោះទេ។ តែជាការបំផ្លាញមនុស្សក្នុងយុទ្ធភោគដែលអាចជាបញ្ហាដល់អំណាចរបស់គាត់។
    មិនមានមេដឹកនាំណាដែលស្មារតីទៀសទេនឹងបញ្ជូនកងទ័ពឯងទៅស្លាប់ ប្រសិនបើគាត់ដឹងថាពួកគេនឹងចាញ់ — លើកលែងតែ “ការស្លាប់” ជាគម្រោងដើម។
    ពិភពលោកអាចមិនខ្វល់អំពីប្រទេសតូចៗដូចជា កម្ពុជា។ តែការពិតគឺ៖
    ទាហានកម្ពុជាកំពុងត្រូវបានប្រើជាសាច់ញាតិ នៅក្នុងហ្គេមអំណាចរបស់មនុស្សតែម្ដង។
    #แฉฮุนเซน
    #ทหารเขมรถูกหลอก
    #สงครามเพื่ออำนาจ
    #ฮุนเซนส่งคนมาตาย
    #กองทัพส่วนตัวฮุนเซน
    #ทหารธรรมดาคือเหยื่อ
    #ล้างบางกองทัพ
    #เขมรไม่ใช่ของตระกูลเดียว
    #หยุดฮุนราชวงศ์
    #กัมพูชายิงก่อน
    #เกมการเมืองใช้เลือดคน
    #ปกป้องแผ่นดินไทย
    #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    #กัมพูชายิงก่อน
    #CambodiaOpenedFire
    #hunsenwarcriminal
    #ฮุนเซนอาชญากรสงคราม
    #ឧក្រិដ្ឋជនហ៊ុនសែន
    #洪森戰爭罪犯
    CR CSI LA
    สิ่งที่ฮุนเซนต้องการจริงๆ ไม่ใช่แค่การสู้รบชายแดน แต่คือการกำจัดทหารที่อาจไม่ภักดีต่ออำนาจของตระกูลฮุน? ตอนนี้ฮุนเซนลดงบประมาณของกองทัพลงอย่างมีนัยยะ แล้วโยกเงินไปสร้าง “กองกำลังพิเศษ” ที่มีเฉพาะคนใกล้ชิดเท่านั้นที่ได้ใช้อาวุธทันสมัย ทหารกัมพูชาธรรมดาไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้สัมผัสอาวุธเหล่านั้น แต่กลับถูกส่งไปตายชายแดน ด้วยคำว่ารักชาติบังหน้า ล่าสุด ฮุน เซนกำลังจะส่ง “กองทัพเรือ” มาปะทะ ทั้งๆ ที่ไม่มีข้อพิพาททางทะเลกับไทย เรือรบก็ยังไม่มีพร้อม แต่นายพลกับกำลังพลกลับถูกสั่งให้ออกหน้าไปตาย นี่มันแปลกเกินไป และชัดเจนว่าไม่ใช่สงครามเพื่อประเทศชาติ แต่คือสงครามเพื่อรักษาอำนาจของตระกูล ไม่มีผู้นำที่ไหนในโลกจะบ้าเลือดถึงขนาดส่งลูกน้องตัวเองไปตาย ทั้งๆ ที่รู้ว่าแพ้แน่ ประเทศเล็กอย่างกัมพูชา ประชาคมโลกอาจไม่ใส่ใจ แต่ความจริงคือ… ทหารกัมพูชากำลังถูกใช้เป็นเหยื่อในเกมอำนาจของคนๆ เดียว What Hun Sen truly wants isn’t just a border war — it’s to eliminate soldiers who may no longer be loyal to his dynasty. He has quietly slashed the national military budget and redirected funds to build a “special guard force” equipped with state-of-the-art weapons, available only to those loyal to him personally. Ordinary Cambodian soldiers never even get to touch this kind of equipment. Instead, they’re sent to die on the frontlines — all in the name of nationalism. And now, Hun Sen is preparing to send the navy to the battlefield — even though there is no maritime dispute with Thailand. There aren’t even proper warships ready, yet generals and sailors are being deployed to die. It’s not just strange. It’s strategic. This is not a war for the country. It’s a purge — a calculated operation to remove anyone in uniform who might challenge the Hun dynasty’s grip on power. No rational leader would send his own men to die knowing they will lose — unless death is the plan. The world may ignore a small country like Cambodia, but the truth is this: Cambodian soldiers are being sacrificed — not for the nation — but for one man’s throne. អ្វីដែលហ៊ុន សែនចង់បានមែនមិនមែនសង្គ្រាមព្រំដែនទេ — តែគឺការបញ្ជប់ទាហានដែលអាចនឹងមិនស្មោះត្រង់នឹងរាជវង្សរបស់គាត់។ គាត់បានកាត់បន្ថយថវិកាថ្នាក់យោធាជាសម្ងាត់ ហើយបញ្ចូនថវិកាទៅកែលំអកងពិសេសសម្រាប់ការការពារខ្លួនឯង ដែលមានអាវុធស្ទើរតែទំនើបបំផុត ហើយមានតែអ្នកដែលស្មោះត្រង់តែប៉ុណ្ណោះទទួលបាន។ ទាហានជាធម្មតាមិនបានស្ទាប់ដល់អាវុធទំនើបទេ។ តែនៅទីបំផុត ត្រូវបញ្ជូនទៅស្លាប់នៅតំបន់ព្រំដែន ដោយប្រើពាក្យថា “ស្មោះនឹងជាតិ” ជាអាវការពារ។ ឥឡូវនេះ ហ៊ុន សែនកំពុងរៀបចំផ្ញើកងទ័ពជើងទឹកចូលសង្រ្គាម ទោះបីជាមិនមានវិវាទសមុទ្រជាមួយថៃផងដែរ។ កប៉ាល់ប្រយុទ្ធក៏មិនទាន់មានត្រៀមខ្លួនរួចផង ស៉ាងតែឧត្តមសេនីយ៍ និងទាហានត្រូវបានផ្ញើឲ្យទៅស្លាប់។ នេះមិនមែនគ្រាន់តែចម្លែកទេ — តែជាយុទ្ធសាស្រ្ត។ នេះមិនមែនជាសង្គ្រាមដើម្បីប្រទេសនោះទេ។ តែជាការបំផ្លាញមនុស្សក្នុងយុទ្ធភោគដែលអាចជាបញ្ហាដល់អំណាចរបស់គាត់។ មិនមានមេដឹកនាំណាដែលស្មារតីទៀសទេនឹងបញ្ជូនកងទ័ពឯងទៅស្លាប់ ប្រសិនបើគាត់ដឹងថាពួកគេនឹងចាញ់ — លើកលែងតែ “ការស្លាប់” ជាគម្រោងដើម។ ពិភពលោកអាចមិនខ្វល់អំពីប្រទេសតូចៗដូចជា កម្ពុជា។ តែការពិតគឺ៖ ទាហានកម្ពុជាកំពុងត្រូវបានប្រើជាសាច់ញាតិ នៅក្នុងហ្គេមអំណាចរបស់មនុស្សតែម្ដង។ #แฉฮุนเซน #ทหารเขมรถูกหลอก #สงครามเพื่ออำนาจ #ฮุนเซนส่งคนมาตาย #กองทัพส่วนตัวฮุนเซน #ทหารธรรมดาคือเหยื่อ #ล้างบางกองทัพ #เขมรไม่ใช่ของตระกูลเดียว #หยุดฮุนราชวงศ์ #กัมพูชายิงก่อน #เกมการเมืองใช้เลือดคน #ปกป้องแผ่นดินไทย #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #hunsenwarcriminal #ฮุนเซนอาชญากรสงคราม #ឧក្រិដ្ឋជនហ៊ុនសែន #洪森戰爭罪犯 CR CSI LA
    0 Comments 0 Shares 3K Views 0 Reviews
  • ด่วน! เมื่อหลังเที่ยงที่ผ่านมา กองทัพอากาศ ส่ง F-16 บินทำลายเป้าหมายทางทหารกัมพูชา ยุทธบริเวณโดยรอบ “เขาพระวิหาร ตาเมือนธม ภูมะเขือ” 2 เที่ยว 4 จุด กลับเข้าฐานบินอย่างปลอดภัยแล้ว
    ด่วน! เมื่อหลังเที่ยงที่ผ่านมา กองทัพอากาศ ส่ง F-16 บินทำลายเป้าหมายทางทหารกัมพูชา ยุทธบริเวณโดยรอบ “เขาพระวิหาร ตาเมือนธม ภูมะเขือ” 2 เที่ยว 4 จุด กลับเข้าฐานบินอย่างปลอดภัยแล้ว
    0 Comments 0 Shares 537 Views 0 Reviews
  • ((( นักวิเคราะห์ข้อมูลดาวเทียมออสเตรเลีย พบหลักฐาน ความขัดแย้งเริ่มจากฝั่งกัมพูชา - Australian satellite imagery analyst finds evidence that the conflict was initiated from the Cambodian side. (English below) )))
    คุณนาธาน รูเซอร์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการวิเคราะห์ข้อมูลดาวเทียม ของ Australian Strategic Policy Institute หรือ ASPI บอกว่าเขานั่งไล่ดูข้อมูลแล้ว สถานการณ์ที่ถูกยกระดับส่วนใหญ่น่าจะเริ่มต้นจากฝั่งกัมพูชา โดยทหารของกัมพูชาได้เสริมกำลังในหลายพื้นที่ก่อนการปะทะเมื่อวันที่ 28 พ.ค. (ไม่ใช่รอบนี้นะครับ หมายถึง รอบเดือน พ.ค. ที่เป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งรอบนี้) และกัมพูชายังเร่งส่งทรัพยากรทางยุทธศาสตร์เพิ่มเติมทันทีหลังเหตุการณ์
    โดยเขาแนบแผนที่แสดงความหนาแน่นของกิจกรรมทางทหารของกัมพูชาก่อนวันที่ 24 ก.ค. มาด้วย
    นักวิเคราะห์คนนี้ทำข่าวพื้นที่สงครามมาหลายจุด ทั้งยูเครน พม่า ค่อนข้างแม่นยำ ที่ผ่านมามีสื่อใหญ่นำข้อมูลของเขาไปใช้บ่อยครั้ง
    ข้อมูลดาวเทียมนี้เป็นของที่บิดผันไม่ได้ ขอให้ทุกท่านช่วยกันแชร์ออกไป เพื่อยืนยันแก่ชาวโลกว่าเกิดอะไรขึ้น
    ด้านล่างผม (เพจเดอะไวลด์โครนิเคิลส์) แปลอังกฤษไว้ให้นะครับ
    Mr. Nathan Ruser, a satellite imagery analyst at the Australian Strategic Policy Institute (ASPI), stated that after closely examining the data, most of the escalation appears to have originated from the Cambodian side. Cambodian troops reinforced several areas prior to the May 28 clashes (refer to the earlier event which marked the beginning of this current conflict). Cambodia also rapidly deployed additional strategic assets immediately following the incident.
    He included a heatmap showing the concentration of Cambodian military activity prior to July 24.
    Mr. Ruser has covered conflict zones in multiple regions—including Ukraine and Myanmar—and has built a reputation for accuracy. His findings are frequently cited by major international media outlets.
    Satellite data of this nature is immutable. We urge everyone to share this widely, so the world can clearly see what has really taken place.
    Cr. The Wild Chronicles - ประวัติศาสตร์ ข่าวต่างประเทศ ท่องเที่ยวที่แปลก ; Drama-addict
    #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire กองทัพอากาศพร้อมยืนหยัดเคียงข้างเสมอ กองทัพอากาศไทย Royal Thai Air Force
    ((( นักวิเคราะห์ข้อมูลดาวเทียมออสเตรเลีย พบหลักฐาน ความขัดแย้งเริ่มจากฝั่งกัมพูชา - Australian satellite imagery analyst finds evidence that the conflict was initiated from the Cambodian side. (English below) ))) คุณนาธาน รูเซอร์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการวิเคราะห์ข้อมูลดาวเทียม ของ Australian Strategic Policy Institute หรือ ASPI บอกว่าเขานั่งไล่ดูข้อมูลแล้ว สถานการณ์ที่ถูกยกระดับส่วนใหญ่น่าจะเริ่มต้นจากฝั่งกัมพูชา โดยทหารของกัมพูชาได้เสริมกำลังในหลายพื้นที่ก่อนการปะทะเมื่อวันที่ 28 พ.ค. (ไม่ใช่รอบนี้นะครับ หมายถึง รอบเดือน พ.ค. ที่เป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งรอบนี้) และกัมพูชายังเร่งส่งทรัพยากรทางยุทธศาสตร์เพิ่มเติมทันทีหลังเหตุการณ์ โดยเขาแนบแผนที่แสดงความหนาแน่นของกิจกรรมทางทหารของกัมพูชาก่อนวันที่ 24 ก.ค. มาด้วย นักวิเคราะห์คนนี้ทำข่าวพื้นที่สงครามมาหลายจุด ทั้งยูเครน พม่า ค่อนข้างแม่นยำ ที่ผ่านมามีสื่อใหญ่นำข้อมูลของเขาไปใช้บ่อยครั้ง ข้อมูลดาวเทียมนี้เป็นของที่บิดผันไม่ได้ ขอให้ทุกท่านช่วยกันแชร์ออกไป เพื่อยืนยันแก่ชาวโลกว่าเกิดอะไรขึ้น ด้านล่างผม (เพจเดอะไวลด์โครนิเคิลส์) แปลอังกฤษไว้ให้นะครับ Mr. Nathan Ruser, a satellite imagery analyst at the Australian Strategic Policy Institute (ASPI), stated that after closely examining the data, most of the escalation appears to have originated from the Cambodian side. Cambodian troops reinforced several areas prior to the May 28 clashes (refer to the earlier event which marked the beginning of this current conflict). Cambodia also rapidly deployed additional strategic assets immediately following the incident. He included a heatmap showing the concentration of Cambodian military activity prior to July 24. Mr. Ruser has covered conflict zones in multiple regions—including Ukraine and Myanmar—and has built a reputation for accuracy. His findings are frequently cited by major international media outlets. Satellite data of this nature is immutable. We urge everyone to share this widely, so the world can clearly see what has really taken place. Cr. The Wild Chronicles - ประวัติศาสตร์ ข่าวต่างประเทศ ท่องเที่ยวที่แปลก ; Drama-addict #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire กองทัพอากาศพร้อมยืนหยัดเคียงข้างเสมอ กองทัพอากาศไทย Royal Thai Air Force
    0 Comments 0 Shares 1K Views 0 Reviews
More Results
fornote https://fornote.in.th