0 Comments
0 Shares
292 Views
0 Reviews
Sponsored
Directory
Discover new people, create new connections and make new friends
-
Please log in to like, share and comment!
-
-
-
-
0 Comments 0 Shares 569 Views 0 Reviews
-
วันนี้ (23 พฤษภาคม 2568) ศาลจังหวัดนนทบุรีได้นัดฟังคำพิพากษาคดีการเสียชีวิตของ "แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์" นักแสดงสาวที่พลัดตกเรือเสียชีวิตเมื่อปี 2565 โดยมีจำเลย 4 คนที่เหลือ คือ แซน กระติก จ๊อบ และภีม หรือ เอ็ม ในข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และข้อหาอื่น ๆ
รายงานข่าวล่าสุดระบุว่า ศาลได้มีคำพิพากษา ยกฟ้อง แซน กระติก และภีม ส่วน จ๊อบ ถูกตัดสินจำคุก 4 เดือน แต่ให้รอลงอาญา
สำหรับจำเลยอีก 2 คน คือ ปอ และโรเบิร์ต ศาลได้เคยมีคำพิพากษาไปแล้วก่อนหน้านี้ เนื่องจากทั้งสองให้การรับสารภาพในข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายวันนี้ (23 พฤษภาคม 2568) ศาลจังหวัดนนทบุรีได้นัดฟังคำพิพากษาคดีการเสียชีวิตของ "แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์" นักแสดงสาวที่พลัดตกเรือเสียชีวิตเมื่อปี 2565 โดยมีจำเลย 4 คนที่เหลือ คือ แซน กระติก จ๊อบ และภีม หรือ เอ็ม ในข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และข้อหาอื่น ๆ รายงานข่าวล่าสุดระบุว่า ศาลได้มีคำพิพากษา ยกฟ้อง แซน กระติก และภีม ส่วน จ๊อบ ถูกตัดสินจำคุก 4 เดือน แต่ให้รอลงอาญา สำหรับจำเลยอีก 2 คน คือ ปอ และโรเบิร์ต ศาลได้เคยมีคำพิพากษาไปแล้วก่อนหน้านี้ เนื่องจากทั้งสองให้การรับสารภาพในข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย0 Comments 0 Shares 1K Views 0 Reviews -
มื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 ศาลปกครองสูงสุด ได้มีคำพิพากษาในคดีที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าวของอดีตนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
สรุปคำพิพากษาและรายละเอียดสำคัญ:
ยกเลิกคำสั่งเดิมของกระทรวงการคลังบางส่วน: ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่ง เพิกถอนคำสั่งของกระทรวงการคลัง ที่ 1341/2559 ลงวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ที่สั่งให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเต็มจำนวน 35,717 ล้านบาท ในกรณีปล่อยให้เกิดความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการ
ให้ชดใช้ค่าเสียหายเฉพาะส่วนของการระบายข้าวแบบ G2G: ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเฉพาะส่วนที่เกิดจากการระระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (G2G) จำนวน 50% ของมูลค่าความเสียหาย 20,057,723,761 บาท ซึ่งคิดเป็นเงินประมาณ 10,028,861,880 บาท (หนึ่งหมื่นยี่สิบแปดล้านแปดแสนหกหมื่นหนึ่งพันแปดร้อยแปดสิบบาท)
เหตุผล: ศาลเห็นว่า การกระทำที่เกี่ยวข้องกับการระบายข้าวแบบ G2G เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและก่อให้เกิดความเสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาฯ (คดีอาญา): ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2560 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้มีคำพิพากษาลับหลังจำคุกนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นเวลา 5 ปี โดยไม่รอลงอาญา ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว และออกหมายจับนางสาวยิ่งลักษณ์ ซึ่งในขณะนั้นไม่ได้เดินทางมาศาล
ท่าทีของนางสาวยิ่งลักษณ์: หลังคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่ารู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม และจำนวนเงินที่ต้องชดใช้เป็นจำนวนมหาศาลที่ยากจะชดใช้หมดตลอดชีวิตที่เหลือ และจะต่อสู้ทางกฎหมายต่อไป
ความหมายของคดี:
คดีจำนำข้าวเป็นคดีที่มีความซับซ้อนและมีผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อการเมืองและสังคมไทย โดยมีประเด็นทั้งด้านการบริหารราชการแผ่นดิน การทุจริต และความรับผิดชอบของนักการเมืองมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 ศาลปกครองสูงสุด ได้มีคำพิพากษาในคดีที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าวของอดีตนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สรุปคำพิพากษาและรายละเอียดสำคัญ: ยกเลิกคำสั่งเดิมของกระทรวงการคลังบางส่วน: ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่ง เพิกถอนคำสั่งของกระทรวงการคลัง ที่ 1341/2559 ลงวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ที่สั่งให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเต็มจำนวน 35,717 ล้านบาท ในกรณีปล่อยให้เกิดความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการ ให้ชดใช้ค่าเสียหายเฉพาะส่วนของการระบายข้าวแบบ G2G: ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเฉพาะส่วนที่เกิดจากการระระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (G2G) จำนวน 50% ของมูลค่าความเสียหาย 20,057,723,761 บาท ซึ่งคิดเป็นเงินประมาณ 10,028,861,880 บาท (หนึ่งหมื่นยี่สิบแปดล้านแปดแสนหกหมื่นหนึ่งพันแปดร้อยแปดสิบบาท) เหตุผล: ศาลเห็นว่า การกระทำที่เกี่ยวข้องกับการระบายข้าวแบบ G2G เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและก่อให้เกิดความเสียหาย คำพิพากษาศาลฎีกาฯ (คดีอาญา): ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2560 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้มีคำพิพากษาลับหลังจำคุกนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นเวลา 5 ปี โดยไม่รอลงอาญา ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว และออกหมายจับนางสาวยิ่งลักษณ์ ซึ่งในขณะนั้นไม่ได้เดินทางมาศาล ท่าทีของนางสาวยิ่งลักษณ์: หลังคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่ารู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม และจำนวนเงินที่ต้องชดใช้เป็นจำนวนมหาศาลที่ยากจะชดใช้หมดตลอดชีวิตที่เหลือ และจะต่อสู้ทางกฎหมายต่อไป ความหมายของคดี: คดีจำนำข้าวเป็นคดีที่มีความซับซ้อนและมีผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อการเมืองและสังคมไทย โดยมีประเด็นทั้งด้านการบริหารราชการแผ่นดิน การทุจริต และความรับผิดชอบของนักการเมือง0 Comments 0 Shares 3K Views 0 Reviews -
เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 3 (จังหวัดสุรินทร์) ได้อ่านคำพิพากษาในคดีที่เกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินโดยมิชอบ ซึ่งมีการรุกป่าสงวนและที่ดิน ส.ป.ก. โดยมีนายประยุทธ มหากิจศิริ นักธุรกิจชื่อดัง เป็นหนึ่งในจำเลยสำคัญ
สรุปคำพิพากษาและรายละเอียดสำคัญ:
จำคุก นายประยุทธ มหากิจศิริ 24 ปี: ศาลพิพากษาลงโทษนายประยุทธ มหากิจศิริ จำเลยที่ 6 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ประกอบมาตรา 86 กระทงละ 4 ปี จำนวน 6 กระทง รวมจำคุก 24 ปี
จำคุก น.ส.อุษณา มหากิจศิริ (ลูกสาว) 12 ปี: ศาลพิพากษาลงโทษ น.ส.อุษณา มหากิจศิริ ลูกสาวของนายประยุทธ ซึ่งเป็นผู้มอบอำนาจให้นำชี้ที่ดินข้างเคียง มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ประกอบมาตรา 86 กระทงละ 4 ปี จำนวน 3 กระทง รวมจำคุก 12 ปี
คดีเกี่ยวกับการออกโฉนดที่ดินรุกป่าสงวน: คดีนี้เกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินสำหรับทำสนามกอล์ฟและโครงการอื่น ๆ ที่มีการรุกล้ำพื้นที่ป่าสงวนและที่ดิน ส.ป.ก. ซึ่งเป็นที่ดินของรัฐ
จำเลยอื่น ๆ: นอกจากนายประยุทธและลูกสาว ยังมีจำเลยรายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบและร่วมกันกระทำความผิดในคดีนี้ โดยศาลได้พิพากษาลงโทษจำเลยหลายราย
การขอประกันตัว: ในวันที่มีการอ่านคำพิพากษา นายประยุทธและจำเลยคนอื่น ๆ ได้ยื่นขอประกันตัว แต่เนื่องจากคำสั่งประกันตัวไม่สามารถส่งมาถึงได้ทันภายในวันนั้น ทำให้จำเลยทั้งหมด รวมถึงนายประยุทธและลูกสาว ต้องถูกควบคุมตัวในเรือนจำกลางสุรินทร์เป็นเวลา 1 คืน ก่อนที่จะได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในวันถัดมา โดยมีเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ
ความสำคัญของคดี:
คดีนี้เป็นคดีสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงการบังคับใช้กฎหมายในการปราบปรามการทุจริตและการบุกรุกทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่เกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลหรือนักธุรกิจรายใหญ่ ซึ่งเป็นที่จับตาของสังคมและสาธารณชนเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 3 (จังหวัดสุรินทร์) ได้อ่านคำพิพากษาในคดีที่เกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินโดยมิชอบ ซึ่งมีการรุกป่าสงวนและที่ดิน ส.ป.ก. โดยมีนายประยุทธ มหากิจศิริ นักธุรกิจชื่อดัง เป็นหนึ่งในจำเลยสำคัญ สรุปคำพิพากษาและรายละเอียดสำคัญ: จำคุก นายประยุทธ มหากิจศิริ 24 ปี: ศาลพิพากษาลงโทษนายประยุทธ มหากิจศิริ จำเลยที่ 6 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ประกอบมาตรา 86 กระทงละ 4 ปี จำนวน 6 กระทง รวมจำคุก 24 ปี จำคุก น.ส.อุษณา มหากิจศิริ (ลูกสาว) 12 ปี: ศาลพิพากษาลงโทษ น.ส.อุษณา มหากิจศิริ ลูกสาวของนายประยุทธ ซึ่งเป็นผู้มอบอำนาจให้นำชี้ที่ดินข้างเคียง มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ประกอบมาตรา 86 กระทงละ 4 ปี จำนวน 3 กระทง รวมจำคุก 12 ปี คดีเกี่ยวกับการออกโฉนดที่ดินรุกป่าสงวน: คดีนี้เกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินสำหรับทำสนามกอล์ฟและโครงการอื่น ๆ ที่มีการรุกล้ำพื้นที่ป่าสงวนและที่ดิน ส.ป.ก. ซึ่งเป็นที่ดินของรัฐ จำเลยอื่น ๆ: นอกจากนายประยุทธและลูกสาว ยังมีจำเลยรายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบและร่วมกันกระทำความผิดในคดีนี้ โดยศาลได้พิพากษาลงโทษจำเลยหลายราย การขอประกันตัว: ในวันที่มีการอ่านคำพิพากษา นายประยุทธและจำเลยคนอื่น ๆ ได้ยื่นขอประกันตัว แต่เนื่องจากคำสั่งประกันตัวไม่สามารถส่งมาถึงได้ทันภายในวันนั้น ทำให้จำเลยทั้งหมด รวมถึงนายประยุทธและลูกสาว ต้องถูกควบคุมตัวในเรือนจำกลางสุรินทร์เป็นเวลา 1 คืน ก่อนที่จะได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในวันถัดมา โดยมีเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ ความสำคัญของคดี: คดีนี้เป็นคดีสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงการบังคับใช้กฎหมายในการปราบปรามการทุจริตและการบุกรุกทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่เกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลหรือนักธุรกิจรายใหญ่ ซึ่งเป็นที่จับตาของสังคมและสาธารณชน0 Comments 0 Shares 2K Views 0 Reviews -
เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 พล.ท. นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์" แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีการป่วยของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และกล่าวถึงบทบาทของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ในประเด็นนี้
ประเด็นอาการป่วยของนายทักษิณ: พล.ท. นันทเดช ตั้งข้อสังเกตและข้อสงสัยเกี่ยวกับอาการป่วยของนายทักษิณ ชินวัตร ที่ถูกนำไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยเน้นว่าขาดความโปร่งใสและมีข้อพิรุธหลายประการ เช่น
ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลทางการแพทย์ที่ชัดเจนจากตำรวจหรือราชทัณฑ์
ไม่มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์และทีม รปภ. เฝ้าในห้องตามระเบียบ
ไม่มีการแถลงข่าวอาการป่วยจากแพทย์โรงพยาบาลตำรวจและราชทัณฑ์ แม้จะเป็นบุคคลสำคัญระดับ VVIP
ส.ส. พรรคเพื่อไทยทั้งพรรคไม่มีใครไปเยี่ยม ซึ่งเป็นเรื่องแปลก
ผลกระทบต่อความเชื่อมั่น: พล.ท. นันทเดช ชี้ว่าเรื่องนี้ไม่มีผลดีต่อนายทักษิณเลย เพราะประชาชนยังคงเชื่อมั่นในคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกว่า 50 คนที่เคยออกมาแสดงความเห็น และยิ่งมีการบิดเบือนข้อมูลมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้เกิดข้อสงสัยและพิรุธมากขึ้นเท่านั้น
เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 พล.ท. นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์" แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีการป่วยของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และกล่าวถึงบทบาทของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ในประเด็นนี้ ประเด็นอาการป่วยของนายทักษิณ: พล.ท. นันทเดช ตั้งข้อสังเกตและข้อสงสัยเกี่ยวกับอาการป่วยของนายทักษิณ ชินวัตร ที่ถูกนำไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยเน้นว่าขาดความโปร่งใสและมีข้อพิรุธหลายประการ เช่น ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลทางการแพทย์ที่ชัดเจนจากตำรวจหรือราชทัณฑ์ ไม่มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์และทีม รปภ. เฝ้าในห้องตามระเบียบ ไม่มีการแถลงข่าวอาการป่วยจากแพทย์โรงพยาบาลตำรวจและราชทัณฑ์ แม้จะเป็นบุคคลสำคัญระดับ VVIP ส.ส. พรรคเพื่อไทยทั้งพรรคไม่มีใครไปเยี่ยม ซึ่งเป็นเรื่องแปลก ผลกระทบต่อความเชื่อมั่น: พล.ท. นันทเดช ชี้ว่าเรื่องนี้ไม่มีผลดีต่อนายทักษิณเลย เพราะประชาชนยังคงเชื่อมั่นในคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกว่า 50 คนที่เคยออกมาแสดงความเห็น และยิ่งมีการบิดเบือนข้อมูลมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้เกิดข้อสงสัยและพิรุธมากขึ้นเท่านั้น0 Comments 0 Shares 2K Views 0 Reviews -